คัด 10 หุ้นเด่น ลุ้น “ฟันด์โฟล์” ไหลเข้า หวังเฟดจ่อลดดอกเบี้ย

“บล.เอเซีย พลัส” จัดกลยุทธ์ลงทุน หวังดอกเบี้ยขาลง หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ชู 10 หุ้นเด่น SIRI-TTB-PTTEP-GULF-BGRIM-GPSC-JMT-MTC-SAWAD-TIDLOR เน้นปันผลสูง-อานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง-บาทแข็งหนุน


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากกรณีการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุด ดัชนีเงินเฟ้อของสหรัฐฯเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 3.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.1% และลดลงจากระดับ 3.3% ในเดือน พ.ค. และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี นอกจากนี้ยังรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานล่าสุด 222,000 ราย ชะลอตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่ 230,000 ราย

แน่นอนว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือนมิ.ย.ที่ชะลอตัวลงมากกว่าคาด บวกกับตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวลงต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยที่ “เฟด” จะนำไปพิจารณาผ่อนคลาย นโยบายการเงินมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยมากถึง 3 ครั้ง ในปีนี้ (เดิมคาด 1-2 ครั้ง) โดยครั้งแรกเป็นเดือน ก.ย. มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 84.60%

นอกจากนี้ภาวะดังกล่าวทำให้เห็นภาพของเม็ดเงินมีแนวโน้มออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย และไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเหลือ 104.44 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นมา 85.4 เหรียญฯ/บาร์เรล

อีกทั้งตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปิดตัวในแดนบวก ส่วนบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงมาอยู่ที่ 4.2% ส่งผลให้ส่วนต่างบอนด์ยีลด์สหรัฐฯและไทย มี GAP ที่ แคบลงมาอยู่ที่ 1.59% หนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 36.37 บาท/ดอลลาร์

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ฝ่ายวิจัยฯคาดการณ์ว่ามีอยู่ 3 กลุ่ม หวังรีบาวน์ รับกระแสบอนด์ยีลด์สหรัฐปรับลง ได้แก่ 1.หุ้นปันผลสูง อาทิ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB,บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP

2.หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็ง ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และ 3. หุ้นรับวัฎจักรดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC,บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR

โดยแนวโน้มวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น อาจทำให้เห็นการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชียหรือตลาดหุ้นกำลังพัฒนาในระยะถัดไปมากขึ้นจาก 3 เหตุผลดังนี้

1.หุ้นในฝั่งประเทศเกิดใหม่มักจะปรับตัวขึ้นได้ดีเวลาเฟดเร่งใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย หรือ ใช้ QE ช่วงนั้นเม็ดเงินมีการเอนเอียงไหลมาเข้าหุ้นเทคฯ และหุ้นประเทศกำลังพัฒนา มากกว่าหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งในช่วง QE1-3 ที่ MSCI EMERGING เพิ่มขึ้น 134% มากกว่า MSCI WORLD เพิ่มขึ้น 116% และช่วง QE COVID ที่ MSCI EMERGING เพิ่มขึ้น 89% มากกว่า MSCI WORLD เพิ่มขึ้น 75%

2.P/E67F MSCI WORLD (ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว) อยู่ที่  20.40 เท่า เร่งตัวสูงขึ้นกว่า MSCI EMERGING (ตลาดหุ้นกำลังพัฒนา) อยู่ที่ 13.40 เท่า โดยเฉพาะตลาดหุ้น NASDAQ มี P/E อยู่ที่ 44.20 เท่า (P/E67F 35.60 เท่า) น่าจะเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในตลาดหุ้นกำลังพัฒนามากขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสได้กำไร จากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม

3.ค่าเงินเอเชียหรือค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้น จากส่วนต่างผลตอบแทน ดอกเบี้ยไทยสหรัฐที่แคบลง และเริ่มเห็นสัญญาณค่าเงินบาทเร่งตัวแข็งค่าขึ้น ในช่วงนี้ โดย 2 สัปดาห์ ค่าเงินบาทแข็งลงมาเกือบ 1 บาท จาก 37 บาท/เหรียญ เหลือ 36 บาท/เหรียญ

ทั้งนี้จากความคาดหวัง “เฟด” ลดดอกเบี้ยจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯส่งสัญญาณชะลอตัวลง ทำให้ยังเห็นภาพของเม็ดเงินมีแนวโน้มออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย และไหลเข้า สู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงสหรัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น หวังฟันด์โฟลว์เข้าเอเชียและไทยมากขึ้นและช่วยหนุนให้ SET INDEX ยืนเหนือ 1,300 จุด และน่าจะเดินหน้าสู่ 1,400 จุด ในช่วงถัดไปได้

Back to top button