“ครม.” อนุมัติ ลดอัตรานำส่ง “เงินกองทุนเฉพาะกิจ SFIs” เหลือ 0.125% ต่อปี

“ครม.” อนุมัติลดอัตราเงินนำส่งกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ SFIs จำนวน 4 แห่ง เหลือ 0.125% ต่อปีในรอบการนำส่งปี 67 เพื่อช่วยลดภาระหนี้สินประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (16 ก.ค.67) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เห็นชอบการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้า กองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (กองทุนฯ) หรือ SFIs สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่งที่มีหน้าที่นำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.ก.ส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ลงกึ่งหนึ่งจากร้อยละ 0.25 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.125 ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ของรอบการนำส่งเงินในปี 2567

ทั้งนี้ เป็นการปรับลดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจส่งผ่านการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงลูกหนี้นอกระบบ เพื่อให้โอกาสลูกหนี้ในการฟื้นตัวและกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติได้มากขึ้น

นายพรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังได้สั่งการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 4 แห่งจัดทำมาตรการหรือโครงการเพื่อช่วยเหลือและผ่อนปรนภาระให้กับลูกหนี้ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือในช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม 2567 ประมาณ 5.04 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวม 1.18 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับลูกหนี้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตลูกหนี้และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากต่อไป

Back to top button