เอกฉันท์! “กสทช.” ปัดตกซื้อลิขสิทธิ์ “โอลิมปิก-พาราลิมปิก” ชี้มี 3 ช่องหลักถ่ายทอดสดแล้ว

“กสทช.” มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นชอบอนุมัติงบในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 33 และการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 17 ของ “กกท.” เนื่องจากมี 4 ช่องรายการสำหรับถ่ายทอดสดแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีการพิจารณาเรื่อง การขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดหาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 และการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 17 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)

ทั้งนี้ทางคณะกรรมการ กสทช. มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นชอบอนุมัติงบฯ ให้ กกท. เนื่องจากมีขณะนี้มีเอกชนได้ลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดแล้ว และมีช่องทีวีสำหรับถ่ายทอดสดแล้ว โดยหน้านี้ กกท.ได้รายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้รับทราบเกี่ยวกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีสภาพคล่องไม่เพียงพอในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดโอลิมปิก 2024 และได้มีการขอสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งมี กสทช.เป็นผู้พิจารณาอนุมัติจำนวน 435 ล้านบาท

สำหรับเหตุผลที่ไม่เห็นชอบอนุมัติงบฯดังกล่าวคือ 1. หากพิจารณาอนุมัติสนับสนุนเงินจาก กทปส ไปจะทำให้เกิดปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ กสทช. เป็นผู้กำหนดให้ต้องปฏิบัติ กล่าวคือ การดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศ  Must carry อันจะส่งผลให้ กสทช. ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเข้าข่ายการละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายได้

2.การที่ กสทช. ไม่อนุมัติให้มีการสนับสนุนเงินจาก กทปส. จะไม่กระทบต่อการถ่ายทอด และดำเนินการตามกฎ Must Have และกฎ Must Carry เพราะจากข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวรายวันในสื่อต่างๆ นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่า บริษัท แพลน บีฯ บริษัท แพลน บีฯ ได้ร่วมกันดำเนินการกับผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน จำนวน 4 ช่องรายการ

ได้แก่ ช่อง T Sports 7, ช่อง CH7 HD, ช่อง 9 MCOT HD และช่อง PPTV HD 36 แล้ว ซึ่งการถ่ายทอดรายการผ่านผู้ให้บริการดังกล่าว มีกลไกกฎหมาย และเงื่อนไขใบอนุญาตของ กสทช. ที่รองรับให้สามารถออกอากาศรายการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 และรายการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ผ่านกิจการโทรทัศน์ที่อยู่ในกำกับดูแลของ กสทช. ได้ทั้งหมดอยู่แล้ว และจากกรณีดังกล่าว ประชาชนย่อมมีทางเลือกในการเข้าร่วมรับชมในช่องทางที่เอกชนร่วมกันดำเนินการอย่างหลากหลาย หาก กสทช. พิจารณาเห็นชอบให้สนับสนุนเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ก็จะเป็นการเข้าแทรกแซงกลไกตลาดที่สามารถดำเนินการได้อยู่แล้วด้วย

3.ตามเอกสารร่างสัญญาระหว่างบริษัทแพลน บีฯ กับ กกท. ที่สำนักงาน กสทช. นำเสนอในที่ประชุม กสทช. มีเนื้อหาเป็นการจำกัดขอบเขตสิทธิการเผยแพร่ภาพและแพร่เสียงไว้เฉพาะการออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sport 7) และช่องทางอื่นๆ ของสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sport 7) ไว้อย่างชัดเจน

ดังนั้น การนำเอาเงินจากกองทุน กทปส. ที่ผู้รับใบอนุญาตทุกรายมีหน้าที่ต้องนำเงินส่งเข้ากองทุน กทปส. ไปสนับสนุนตามที่ กกท. เสนอโดยระบุให้สิทธิการถ่ายทอดสดแก่ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินเฉพาะสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sport 7) จะเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชน และสร้างความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบกิจการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ทั้งระบบ

4.การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์เกมส์ และการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ เป็นหน้าที่และภารกิจหลักของ กกท. และกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ ที่กำหนดไว้ตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 และวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ โดยตรง ดังนั้น จึงเป็นภารกิจหลักของ กกท. และกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ดำเนินการโดยชัดแจ้ง นอกจากนี้ การจะกล่าวอ้างว่ามิได้กำหนดไว้ในแผนงานของ กกท. หรือ กองทุนพัฒนาการกีฬาฯ ก็ไม่สามารถรับฟังได้เนื่องจาก เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่าจะมีการดำเนินการในทุกๆ 4 ปี

Back to top button