พรีวิว! 6 หุ้นเครื่องดื่ม โบรกชี้ไตรมาส 2 กำไรแจ่ม

พรีวิวหุ้นกลุ่มเครื่องดื่นชู CBG-SAPPE-COCOCO-PLUS-TACC โบรกฯชี้ไตรมาส 2/67 กำไรสุทธิแกร่ง รับยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 


ใกล้ช่วงประกาศงบการเงินไตรมาส 2/2567 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วภายหลัง 45 วัน จากการปิดงวดบัญชีไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา นั้น

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”  จึงทำการสำรวจบริษัทกลุ่มเครื่องดื่ม เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจพอควร เกี่ยวกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 ว่าจะออกมาดีหรือไม่

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจากการสำรวจบทวิเคราะห์ พบว่า มีการประเมินไว้ก่อนหน้าว่าบริษัท CBG, SAPPE, COCOCO, PLUS และ TACC ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 จะเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับรายละเอียด ด้านบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์โดยประเมินต่อ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG โดยคาดกำไรไตรมาส 2/2567 จะทำระดับสูงสุดในรอบ 8 ไตรมาสมาอยู่ที่ 687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน หนุนจากรายได้ที่เติบโต 9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน โดยหลักๆมาจากยอดขาย CLMV ที่ดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว 30 bps เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารที่ลดลงจากงวดเดียวของปีก่อน จากค่าใช้จ่ายสนับสนุนการขายที่ลดลงหลังโรงเบียร์เข้ามาแชร์ค่าใช้จ่าย Carabao Cup 50% คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 91.00 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์โดยประเมินต่อ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 393 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดรายได้รวมอยู่ที่ 1,974 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งจากการเติบโตทั้งในประเทศและส่งออกโดยการเฉพาะการส่งออกเติบโตจากทวีปยุโรปและเอเชียเป็นหลัก ยังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 113.00 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์โดยประเมินต่อ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่ลดลง 2% จากไตรมาสก่อน สำหรับการเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนได้รับแรงหนุนจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของชาเขียวที่คุ้มค่าเงิน (รายได้หลัก)

ในขณะที่การลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนมีสาสาเหตุมาจากการใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่สูงขึ้น (ในค่าใช้จ่ายSG&A) สำหรับแคมเปญฤดูร้อน แม้จะมีถารเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งจากไตรมาสก่อน (7% เป็น 2.3b) นอกจากนี้ยังอาจมีกำไรจากการขายสินทรัพย์จำนวน 40 ล้านบาท (อุปกรณ์บรรจุภัณฑ์) ทำให้มีกำไรสุทธิ 393 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน, และเพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์โดยประเมินต่อ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO โดยคาดกำไรไตรมาส 2/2567 จะเดินหน้า All time high และทั้งปีคาดโตก้าวกระโดดเกือบ 100% จากปีก่อนที่ 544.80 ล้านบาท ตามกำลังการผลิตและคำสั่งซื้อจากจีนที่มากขึ้น ขณะที่การบริหารจัดการด้านวัตถุดิบที่ไม่มีปัญหาด้านวัตถุดิบและสามารถนำส่งเข้ากระบวนการผลิตได้อย่างสมำเสมอ และไม่มีผลกระทบต่อเป้าหมายการเติบโตของบริษัท โดยล่าสุดบริษัทได้ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อขยายไลน์ผลิตน้ำผลไม้ขวด PET และกำรเดินเครื่องกำลังการผลิตใหม่ ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ราคาเป้าหมายเฉี่ยจาก Bloomberg consensus อยู่ที่ 15.48 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์โดยประเมินต่อ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS โดยคาดกำไรไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 546% จากไตรมาสก่อน จาก high season และการขยายกาลังการผลิตขวด PET เป็นหลัก

โดยมีปัจจัยคือ 1) คาดรายได้ที่ 683 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, และเพิ่มขึ้น 118% จากไตรมาสก่อน หลักจากการเติบโตของรายได้ในทุกภูมิภาคจาก high season โดยปัจจุบันสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ขวดแก้วคิดเป็นราว 85% และขวด PET ที่ 15% เห็นการเติบโตดีขึ้นของยอดขาย PET จาก Utilisation rate ที่สูงขึ้นในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 30%

2) คาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 28.5% ลดลด 10 bps เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 650 bps จากไตรมาสก่อน จาก high season การเพิ่มกำลังการผลิตของขวด PET ที่มี GPM สูงกว่าขวดแก้ว 3) คาด SG&A ที่ 89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และ118% จากไตรมาสก่อน โดยค่าใช้จ่ายจากการขายเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่สูงขึ้น ให้คำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์โดยประเมินต่อ บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 เติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เข้าสู่ช่วง High Season ที่มีสภาพอากาศร้อนจัดและโรงเรียนเปิดเทอม ประกอบกับจำหน่ายเครื่องดื่มแบบโถกดรสชาติใหม่ Drinking Yogurt (Seasonal Flavor) ได้กระแสตอบรับดีมาก ตลอดจนการเติบโตควบคู่กับการขยายสาขาของ 7-Eleven ซึ่งคาดเปิดใหม่ราว 175 สาขาจากไตรมาสก่อน ส่วน %GPM คาดทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2567 ที่ราว 33.5% เนื่องจากมีการล็อคราคาวัตถุดิบตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 7.60 บาท

Back to top button