ปิดจ๊อบข้าว 10 ปี! “ทรัพย์แสงทองไรซ์-สหธัญ” ชนะประมูล โกยเงินเข้ารัฐกว่า 240 ล้าน

ปิดจ๊อบข้าว 10 ปี! "ทรัพย์แสงทองไรซ์-สหธัญ" ชนะประมูล เฉลี่ย 18 บาทต่อก.ก. โกยรายได้เข้ารัฐ 244 ล้านบาท


แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยวันนี้ (19 ก.ค.) ว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้แจ้งผลต่อรองราคาข้าวสารค้างเก่า 10 ปี ปริมาณ 15,000 ตัน ที่เปิดประมูลเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยปรากฏว่าบริษัททรัพย์แสงทอง ไรซ์ จำกัด จ.สุพรรณบุรี ที่เสนอราคาในคลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) มีรวมปริมาณข้าวทั้งสิ้น 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ วงเงิน 182,046,000 บาท เฉลี่ย 15.617 บาท/กก. ได้เสนอราคาใหม่เพิ่มเป็น 18 บาทต่อ/กก. หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3 บาทต่อกก. จึงชนะประมูลข้าวในคลังดังกล่าวไป

ส่วนข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) ทั้งหมด 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ บริษัทที่ชนะประมูลคือบริษัท สหธัญ จำกัด โดยเสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้งเพียงคลังเดียว 62,734,711.23 บาท เฉลี่ย 18.690 บาท/กก.

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าภายในวันนี้ (19 ก.ค.) อคส.จะออกหนังสือแจ้งบริษัทผู้ชนะประมูล และในวันที่ 23 ก.ค.67 ผู้ชนะประมูลจะเข้ามาทำสัญญาและวางหลักประกันสัญญา 5% (ภายใน 15 วัน) และระหว่างวันที่ 15 ส.ค.-13 ก.ย.67 ชำระเงินและรับมอบข้าวตามสัญญาซื้อขายข้าวในครั้งนี้ คาดว่ารัฐจะได้เงินเข้าคลังมากกว่า 244 ล้านบาท

เรื่องนี้แม้ว่าผลการเจรจาออกมาว่าได้ผู้ชนะประมูลข้าวสารค้างเก่า 10 ปีได้เป็นที่เรียบร้อย แต่ก็มีการพูดถึงและตั้งข้อสังเกตของการทำงานของ อคส.ที่ทำงานล่าช้าและไม่เป็นที่น่าพอใจของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์และในฐานะกำกับดูแล อคส.ด้วยตนเองอย่างมาก

แหล่งข่าวกล่าวว่า นับตั้งแต่ที่กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางที่จะระบายข้าวสารสต๊อกค้างเก่านี้ และมอบหมายให้ อคส.ไปดำเนินตั้งแต่ประกาศเชิญชวนเอกชน ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นซองประมูลไปจนถึงการยื่นซองประมูล แต่ก็เกิดความผิดพลาดขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติที่มีบริษัทเกี่ยวพันคดีค้างเก่ากับ อคส.แต่สามารถเข้ามายื่นซองประมูลในครั้งนี้ได้ จึงทำให้เสียเวลาไปกับการตรวจสอบในเชิงลึกถือว่าการทำงานของ อคส.ไม่เป็นมืออาชีพอย่างมาก และเห็นว่าหลังจากกระบวนการเซ็นสัญญาขายข้าวในล็อตนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว คงจะมีการปรับองค์กรการทำงานของ อคส.ใหม่

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่านายภูมิธรรมได้จัดเตรียมบุคคลที่มีความรู้และความสามารถสูงที่จะเข้ามานั่งเป็นคณะกรรมการบอร์ด อคส.ซึ่งจะมีบุคคลทั้งเก่าและใหม่ร่วมในคณะกรรมการในชุดใหม่นี้ด้วย รวมถึงจะเร่งหาบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส.อีกด้วย

Back to top button