“พิชัย” ตั้งบอร์ดบริหาร “หุ้นรัฐ” เร่งฟื้นกองทุนวายุภักษ์ วงเงิน 1 แสนล้านบาท
“พิชัย ชุณหวชิร” เซ็นตั้งบอร์ดบริหาร “หุ้นรัฐ” ครอบคลุมการได้มา-ถือครอง-จำหน่าย ฟาก “ลวรณ” เร่งฟื้นกองทุนรวมวายุภักษ์วงเงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการบริหารและพัฒนาหลักทรัพย์ของรัฐ โดยมีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านทรัพย์สิน เป็นรองประธานกรรมการและมีกรรมการ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ผู้แทนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน 5 คน ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการเงิน ด้านการบัญชี ด้านการลงทุน หรือด้านกฎหมายรวมถึงที่ปรึกษาหรือรองผู้อำนวยการ สคร. ที่กำกับดูแลงานบริหารหลักทรัพย์ของรัฐ เป็นกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่ ประกอบด้วย 1.เสนอแนะนโยบายการบริหารและพัฒนาหลักทรัพย์ของรัฐของกระทรวงการคลังในภาพรวมเพื่อนำเสนอ รมว.คลังพิจารณา โดยครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการ การได้มา การถือครอง และการจำหน่ายหลักทรัพย์
2.จัดทำแผนการบริหารและพัฒนาหลักทรัพย์ของรัฐให้สอดคล้องกับกรอบนโยบายการบริหารหลักทรัพย์ของรัฐ เพื่อนำเสนอ รมว.คลังพิจารณา 3.เสนอแนะและ/หรือให้คำปรึกษาต่อกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาการบริหารและพัฒนาหลักทรัพย์ของรัฐ 4.เสนอแนะและ/หรือให้คำปรึกษาต่อการจัดการหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลังตามที่ รมว.คลังมอบหมาย
5.ประสานงาน ขอข้อมูล หรือเชิญบุคคลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการดำเนินงานตามหน้าที่และอำนาจ 6.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการอื่น ๆ ตามความจำเป็นและความเหมาะสม และ 7.ปฏิบัติการอื่นใดตามที่ รมว.คลังมอบหมาย
ก่อนหน้านี้ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลังได้มอบนโยบายให้ สคร. ทบทวนหลักทรัพย์ของรัฐที่กระทรวงการคลังถือครอง และเร่งทำแนวทางการบริหารหลักทรัพย์ของรัฐ และแผนการลงทุนที่สร้างผลกำไรให้แก่รัฐ โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อศึกษาถึงความคุ้มค่าของหุ้นที่กระทรวงการคลังถือ
“คณะกรรมการชุดนี้ เพื่อศึกษาถึงความคุ้มค่าของหุ้นที่กระทรวงการคลังถือ เพื่อบริหารให้มีประโยชน์สูงสุดกับภาครัฐประเมินความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ รวมถึงมองแนวโน้มของหลักทรัพย์ดังกล่าวในอนาคตด้วย นอกเหนือจากมาตรฐานทางบัญชี ดูกำไร-ขาดทุน และกรอบกฎหมาย”
สำหรับหลักทรัพย์ที่ภาครัฐถือแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.หุ้นที่ถือผ่านกองทุนรวมวายุภักษ์ 2.หุ้นรัฐวิสาหกิจ 3.หุ้นที่ได้จากหลักทรัพย์ที่ได้มาจากการยึดทรัพย์ หรือนิติเหตุ ซึ่งมีจำนวน 100 หุ้น มูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท
ด้าน นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องการจัดตั้งกองทุนรวมวายุภักษ์ขึ้นมาใหม่ โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งจะมีวงเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท ทั้งนี้ แนวคิดการฟื้นกองทุนรวมวายุภักษ์นั้น เพื่อเติมเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้น เสริมกับกองทุน Thai ESG ที่มักจะมีแรงซื้อเกิดขึ้นช่วงใกล้สิ้นปีเป็นหลัก
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ สคร. พบว่า ณ ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2567 มีหลักทรัพย์ของรัฐที่ถือครองโดยกระทรวงการคลัง ทั้งสิ้น 109 หลักทรัพย์ (ไม่รวมหุ้นในรัฐวิสาหกิจ) มูลค่ารวม 376,997.38 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ของรัฐ 108 หลักทรัพย์ (ไม่รวมมูลค่ากองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง) อยู่ที่ 35,304 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง อยู่ที่ 341,693 ล้านบาท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 66)