“กรภัทร” ชี้ SET ปรับฐาน แนะสะสม MINT-GFPT-MOSHI ลุ้นไตรมาส 3 โตแกร่ง

“กรภัทร” ชี้ SET อยู่ในช่วงสร้างฐาน! แนะสะสม 3 หุ้นเด่น MINT-GFPT-MOSHI ลุ้นไตรมาส 3 โตแกร่ง โดยให้แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,310 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,285-1,290 จุด


นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (25 ก.ค.67) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้เปิดตลาดหุ้นคาดว่าช่วงแรกปรับฐาน แต่ในช่วงท้ายๆมีลุ้นอาจจะมีแรงดีดกับมาปิดใกล้ๆกัน 1,300 จุด+/- และต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในช่วง Outperform โดยเฉพาะตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันขึ้นไปกว่า 20%

นอกจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจาก Valuation ตลาดหุ้นสหรัฐค่อนข้างแพงโดยเห็นได้จากตัวเลขส่วนต่างระหว่าง Earning Yield ของตลาดหุ้น เทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวสะท้อนออกมาว่า ตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงมากกว่า Yield ต่ำกว่าพันธบัตรความหมายก็คือ พันธบัตรสหรัฐระยะยาวน่าสนใจกว่าตลาดหุ้น

ดังนั้นตลาดหุ้นจะไปต่อได้คือต้องเห็น Earning ที่ดีและต่อเนื่อง แต่เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐมีกระแสของเทคโนโลยี AI ซึ่งเป็นภาพที่กำลังเกิดการปรับโครงสร้างภาคการผลิตของโลกทำให้ตลาดเกิดความคาดหวังและปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง มีจุดเปราะบาง คืออุตสาหกรรมยานยนต์ที่ชะลอลงโดยเฉพาะ Earning ของ Tesla วานนี้ที่ออกมาแย่กว่าคาด เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาของรถยนต์ไฟฟ้าประกอบกับ Valuation หุ้นที่ขึ้นมาแพงส่งผลให้มีแรงขายออกมา และส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีหลายๆตัวปรับตัวลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตามโครงสร้างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของไทยที่ไม่มากภาพรวมตลาดช่วงแรกราคาอาจจะปรับตัวลงมา แต่ด้วยหุ้นกลุ่มพลังงาน ราคาหุ้นน้ำมันที่ดีดตัววันแรกน่าจะช่วยประคองตลาด ดังนั้นปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเป็นกรอบสำหรับซื้อลงทุนหุ้นไทยโดยให้กรอบที่ระดับ 1,280-1,320 จุด และมองว่าระดับ 1,250 จุด น่าจะเอาอยู่ ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในช่วงของการสร้างฐานโดยให้แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,310 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,285-1,290 จุด

ส่วนประเด็นคดีนายกหลังออกมาวานนี้มองว่าปัจจัยการเมืองตลาดให้น้ำหนักมากแล้ว 70-90% ดังนั้นรอดูอยู่อย่างเดียวคือบทสรุปจะออกมาด้านใดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งหากออกมาในเชิงกลางถึงบวกตลาดน่าจะดีดตัว แต่ถ้าออกมาในเชิงลบก็อาจจะลงเบาๆ แล้วก็จะกลับตัวเป็นฟื้นตัว ดังนั้นภาพรวมการเมืองตลาดให้น้ำหนักน้อยลงและตอบรับมามากพอสมควรแล้ว

ดังนั้นกลยุทธ์ในการลงทุนมองว่าเป็นอยู่ในช่วงโซนของการลงทุน แนะสะสมหุ้น Domestic Play,ค้าปลีกในประเทศ, ICT ทิศทางกำไรปรับตัวดีขึ้น,หุ้นโรงไฟฟ้าที่มีโครงสร้างพื้นฐานเป็น Tech Company ที่จะเติบโตไปกับดาต้าเซ็นเตอร์ และหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มที่ทิศทางกำไรเติบโตดี รวมทั้งหุ้นส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอาหาร

โดยแนะนำหุ้นเด่น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT โดยมองว่ากำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งแรก และแนวโน้มไตรมาส 2/67 ดีทุกด้านรวมทั้งโรงแรมที่ยุโรปเร่งตัวขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจอาหารในประเทศเร่งตัวขึ้นให้ราคาเป้าหมาย 42 บาท

นอกจากนี้แนะนำลงทุนธีมต่างประเทศมีการจำกัดการส่งออกขาไก่ไปจีน ดังนั้นหุ้นที่ส่งออกไก่จะได้ประโยชน์เชิงบวกจับตาบริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT คาดว่ากำไรไตรมาส 3/67จะเร่งตัวขึ้นและมองว่าจะมีคำสั่งซื้อเข้ามาในบ้านเรารวมทั้งหุ้นน้องใหม่ บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM คาดว่าจะได้อานิสงส์ เนื่องจากมีสัดส่วนไก่แปรรูปและสด เกือบ 50 % และมีสัดส่วนการส่งออกประมาณกว่า 50% ดังนั้นภาพรวมราคาที่ปรับลงมาน่าจะเป็นไปตามภาวะตลาดแต่หุ้นมีโอกาสที่จะค่อยๆฟื้นตัว โดยเฉพาะไตรมาส 3/67 ผลประกอบน่าจะสดใส

อีกทั้งแนะนำบริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI มองว่าสินค้านำเข้าจากจีนในไตรมาส 2/67 ที่ขาดสต๊อกไปสามารถแก้ไขได้แล้วในไตรมาส 3/67 และสิ้นค้ามาร์จิ้นสูงที่จับมือกับศิลปินในประเทศและศิลปินเกาหลีกลับมาได้รับความนิยมดังนั้นมองว่ากำไรไตรมาส 3/67 จะกลับมาเติบโต ดังนั้นราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาจากระดับ 58 บาท และมายืนแถวระดับ 40 บาทต้นๆแนะนำทยอยซื้อสะสม

Back to top button