GFPT-FM ท็อปพิก! รับอานิสงส์ “บราซิล” งดส่งออก “เนื้อไก่” หนุนยอดขายจีนพุ่ง

GFPT-FM ท็อปพิก! รับราคาขายส่งของตีนไก่เพิ่มขึ้น 10% หลังบราซิลสั่งห้ามส่งออกไก่ไปจีนเนื่องจากเกิดโรคไข้หวัดนก หนุนแนวโน้มราคาไก่ในจีนสูง และมีการนำเข้าตีนไก่และเนื้อไก่จากไทย


บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาขายส่งของตีนไก่เพิ่มขึ้น 10% นับตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วหลังบราซิลสั่งห้ามส่งออกไก่ไปจีนเนื่องจากเกิดโรคไข้หวัดนก โดยปี 2566 ประเทศจีนนำเข้าตีนไก่มูลค่าราว 2.3 พันล้านดอลลาร์ราว 40% มาจากบราซิล

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์จะทำให้มีแนวโน้มราคาไก่ในจีนสูง และมีการนำเข้าตีนไก่และเนื้อไก่จากไทยมองเป็นบวกต่อหุ้นส่งออกไก่ไทย อาทิ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT

ขณะเดียวกัน นายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน FM กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีบราซิลสั่งห้ามส่งออกไก่ไปจีนหลังเกิดโรคไข้หวัดนกเมื่อปี 2566 นั้น ทำให้ราคาไก่ในประเทศจีนสูงขึ้น ดังนั้น บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ที่ส่งออกเนื้อไก่และตีนไก่ไปยังจีนสัดส่วน 23% ของการส่งออก ได้รับประโยชน์ค่อนข้างมากมีออเดอร์คำสั่งซื้อเข้ามายาวไปถึงต้นปีหน้าแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อความต้องการเนื้อไก่และตีนไก่ในประเทศจีนยังคงสูงอยู่ต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนส่งออกไปยังประเทศจีนให้ได้สัดส่วน 25% ของการส่งออกต่อไปภายในปีนี้

ทั้งนี้ FM ประกอบธุรกิจโฮลดิ้งที่ลงทุนในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจอาหาร (Food Focus) โดยมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายไก่แปรรูปปรุงสุก (Cook-Added Value Products: CAV Products) เป็นหลัก โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Food  Technology) ใหม่ๆ ในการผลิต

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 3/2567 ของ GFPT อยู่ที่ 540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจาก GPM สูงขึ้นเพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออก ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาและปริมาณการส่งออกจะสามารถชดเชยต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มปรับขึ้นได้

อีกทั้งคาดการณ์ส่วนแบ่งกำไรจาก McKey และ GFN ฟื้นจากฐานต่ำเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า

ขณะที่คาดการณ์กำไรปกติทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะมองแนวโน้มภาพรวมใกล้เคียงกัน

สำหรับราคาไก่ในประเทศปัจจุบันอยู่ที่ 44 บาทต่อกิโลกรัม ทรงตัวเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อนหน้า

โดยทาง GFPT คาดการณ์ว่าราคามีแนวโน้มทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในครึ่งหลังของปี 2567 เนื่องจากความต้องการส่งออกเพิ่มขึ้น และผลักดันด้วยต้นทุนการเลี้ยงเริ่มเพิ่มขึ้นจากราคาข้าวโพดและข้าวสาลี ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 15.10 บาท

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ระบุว่า FM มีจุดเด่น คือ ศักยภาพการเติบโตสูงจากการมีฐานธุรกิจแข็งแกร่ง ทั้งด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมากกว่า 40 ปี โดยมุ่งเน้นธุรกิจไก่ปรุงสุก (CAV) ซึ่งมีอัตรากำไรสูงและผันผวนต่ำ และมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรต่อปี (CAGR) 3 ปีข้างหน้า 31% (2567-2569) จากการขยายกำลังการผลิต การขยายตลาด การเพิ่มยอดขายสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) ซึ่งมีอัตรากำไรสูง และการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องและให้ราคาเป้าหมายที่ 8.90 บาท โดยคาดว่าจะมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรมาจากการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

อีกทั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประเมินว่า ผลประกอบการ FM จะเติบโตอย่างยั่งยืน จากปัจจัยบวก 1) ภาพรวมอุตสาหกรรมไก่ยังเป็นอันดับ 1 ในการบริโภคมากที่สุด และประเทศไทยติดในกลุ่ม 5 อันดับแรกในการส่งออกของโลก 2) ประเทศไทยเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการผู้ส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) สอดคล้องกับที่บริษัทมุ่งเน้นธุรกิจกลุ่มนี้ 3) แนวโน้มอุตสาหกรรมไก่ไทยเป็นช่วงขาขึ้น 4) บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูป (CAV Products) มุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตราทำกำไรสูงสร้างกำไรเติบโตอย่างยังยืน 5) ขยายตลาดส่งออกกลุ่มประเทศใหม่ๆ และยังคงรักษาลูกค้าระดับไฮเอนด์พรีเมียมไว้ 6) พัฒนาสินค้าใหม่ปลายน้ำ (Downstream) อย่างต่อเนื่อง และ 7) ขยายกำลังการผลิตไก่ชำแหละเพิ่ม

พร้อมกันนี้ คาดว่าประกอบการของ FM ปี 2567 จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 115% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 546 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% หรือคิดเป็น 22% ของกำไรทั้งปี และคาดกำไรสุทธิในปี 2567-2569 จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยได้ 46% (CAGR3Y) โดยคาดการณ์รายได้จากการขายที่ดีขึ้นเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% (CAGR3Y) ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2567 ของ FM ได้มูลค่าตลาดที่ประมาณ 8,200 ล้านบาท หรือที่ 8.30 บาท

Back to top button