“เศรษฐา” ปาฐกถาสัมมนาวิชาการ ย้ำพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่สิ่งแวดล้อม

“เศรษฐา” ปาฐกถาในสัมมนาวิชาการทศวรรษที่ก้าวผ่านธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ย้ำพัฒนาเศรฐกิจควบคู่กับสิ่งแวดล้อม สร้างความร่วมมือ รัฐ-เอกชน-ประชาชน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน: ตัวเร่งปฏิกิริยาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในประเทศไทย” พร้อมด้วย ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวต้อนรับและแนะนำหลักสูตรฯ เน้นย้ำพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่สิ่งแวดล้อม สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

นายเศรษฐา กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นในหลายด้านส่งผลให้เกิดกระแสการเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและร่วมกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบจากการการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

โดยมีความท้าทายจากทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่าง ๆ และการเตรียมปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป “ความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน” จึงเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สอดคล้องกับนโยบาย Ignite Thailand ของรัฐบาล ที่เน้นสร้างความยั่งยืนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน (Public-Private-People Partnership หรือ PPPP)” มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ “Decoupling” หรือการลดการใช้ทรัพยากรและการลดของเสียในกระบวนการผลิตควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นหลักการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถสร้างสังคมและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีภูมิคุ้มกัน และอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและมีความสุข

ร้อยเอกรชฏ กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการจัดการศึกษาอบรม หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปธส.) มาอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุกปี เพื่อเสริมสร้างศักยภาพนักบริหารระดับสูงในการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแบบองค์รวมและบูรณาการตามหลักธรรมาภิบาล เสริมสร้างประสบการณ์และกระบวนทัศน์ของนักบริหารสิ่งแวดล้อมยุคใหม่ และที่ผ่านมา หลักสูตร ปธส. ได้รับความสนใจจากหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

โดยในแต่ละปี มีผู้สมัครเพื่อเข้ารับการศึกษาอบรมในหลักสูตรเป็นจำนวนมาก และมีผู้สำเร็จการศึกษาแล้วจำนวน ๑๐ รุ่น รวมทั้งสิ้น 647 คน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาอบรมหลักสูตร ปธส. รุ่นที่ ๑๑ โดยผู้ผ่านการศึกษาอบรมในหลักสูตรนี้ เป็นบุคลากรจากทุกภาคส่วน ทั้งจากภาคเอกชน ข้าราชการจากส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทหารและตำรวจ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา ตลอดจนองค์กรอิสระ สมาคมและมูลนิธิ ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการสร้างเครือข่ายที่มีศักยภาพในการสนับสนุนการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของประเทศ

สำหรับงานสัมมนาวิชาการในวันนี้จัดขึ้นภายใต้หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปธส.) ซึ่งนอกจากการปาฐกถาพิเศษ “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน: ตัวเร่งปฏิกิริยาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในประเทศไทย” ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การนำเสนอ Sustainable Growth Model : ขับเคลื่อนการดำเนินงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย พร้อมมอบข้อเสนอเชิงนโยบาย Sustainable Growth Model ให้แก่นายกรัฐมนตรี

รวมทั้งการเสวนา “ประชาคม ปธส. : การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับสังคมไทย” ซึ่งการจัดงานครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาอบรม มาสร้างประโยชน์ในวงกว้าง และแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานของเครือข่ายความร่วมมือของผู้บริหารระดับสูงระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่มุ่งสู่การพัฒนาและผลักดันนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมภาครัฐไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งในระดับองค์กรและระดับประเทศ ผ่านการดำเนินงานแบบบูรณาการเพื่อให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการจัดงานแบบปลอดคาร์บอน (Carbon Neutral Event) โดยมีการชดเชยการปลดปล่อยคาร์บอนของงานจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ทำให้การจัดงานครั้งนี้มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

Back to top button