GUNKUL ดีด 4% ยันพื้นฐานธุรกิจแกร่ง โบรก ชูเป้า 3.30 บาท
GUNKUL บวก 4% มั่นใจเดินหน้าธุรกิจตามแผน พร้อมลุยรับงานภาครัฐมูลค่า 700 ล้านบาท และจ่อประมูลงานใหม่เพิ่ม ฟากโบรก มองไตรมาส 2 สดใส แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (26 ก.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ณ เวลา 10:14 อยู่ที่ระดับ 2.02 บาท บวก 0.07 บาท หรือ 3.59% สูงสุดที่ระดับ 2.02 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.96 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24.78 ล้านบาท
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร GUNKUL เปิดเผยว่า ภาพรวมของผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจพลังงานทดแทนในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งหันมาติดตั้งโซลาร์เพื่อใช้งานในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น เหตุเนื่องจากเป็นการลดต้นทุนจ่ายซื้อค่าไฟฟ้าจากภาครัฐ และมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ส่งผลให้ธุรกิจด้านพลังงานทดแทนในภาคเอกชนมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
โดยบริษัทยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนที่ได้วางไว้อย่างเต็มที่และมองหาโอกาสการลงทุน รวมถึงเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ ๆ เพิ่มเติมทั้งจากภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และล่าสุดบริษัทยังได้รับงานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รวมถึง การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่า 700 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่างานในมือ (backlog) เพิ่มมากขึ้น จากรายละเอียดดังกล่าวข้างต้นทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัททั้งในส่วนของรายได้และกำไรยังมีการเติบโตต่อเนื่อง
“อยากให้ผู้ถือหุ้น รวมถึงนักลงทุน มั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และผลการดำเนินงานที่เติบโตของกลุ่มบริษัท เพราะเรายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายงานในส่วนภาครัฐและเอกชน ที่มีการขยายตัวด้านพลังงานทดแทนและระบบสายส่งไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท” นางสาวโศภชา กล่าว
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ถึงทิศทางผลประกอบการ GUNKUL กำไรไตรมาส 2/67 คาดการณ์เติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าตามปัจจัยฤดูกาลที่โคงการแสงอาทิตย์ (Solar) ผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น แต่จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากฐานสูงในปีก่อนที่ค่า Ft อยู่ระดับสูง ส่วนแนวโน้มเติบโตใน 3-5 ปีข้างหน้านั้น ภายหลังจากโครงการ Solar และ พลังงานลม (Wind) ได้รับการคัดเลือกแล้ว 832 MW จะพร้อมทยอยดำเนินการเชิงพาณิชย์ COD รวมไปถึงอาจมีการเติบโตของรายได้ EPC
อีกทั้ง เป็นหนึ่งในบริษัทได้รับประโยชน์จากร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ปี 2567 จากโครงการ Solar และ Wind ใหม่จำนวนมากซึ่งจะช่วยเพิ่ม MW ใหม่ รวมไปถึงสร้างการเติบโตของธุรกิจ EPC ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท