เหยื่อหุ้น STARK ร้องก.ล.ต. เอาผิด “ดีลอยท์” เหตุรับรองบัญชี “สตาร์ค”

ผู้เสียหายหุ้น STARK บุกร้อง ก.ล.ต. เอาผิดบริษัทดีลอยท์ฯ และผู้ตรวจสอบบัญชีที่รับรองงบการเงินสตาร์คให้หลงเชื่อว่าใสสะอาด สงสัยทำไมบิ๊กดีลอยท์ยังนั่งในบอร์ดก.ล.ต. จี้ต้องมีมาตรการเด็ดขาดเพิกถอนจากการทำงานในตลาดทุนไทย


ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 11:00 น.วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  นายอำพล รัตนมูสิก  ทนายความในฐานะตัวแทนของผู้เสียหายจำนวน 78 คน ที่ลงทุนซื้อหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK พร้อมผู้เสียหายบางส่วนได้เข้ายื่นหนังสือต่อ ก.ล.ต. เพื่อเรียกร้องให้ก.ล.ต.เพิกถอนและดำเนินคดีอาญาเอาผิดกับผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในสังกัดของ บริษัท  ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จำกัด หรือ บริษัทดีลอยท์ฯ  และบริษัทดีลอยท์ฯ ตามอำนาจหน้าที่ของ ก.ล.ต.

โดยในหนังสือเปิดผนึกระบุว่าตั้งแต่ ปี 2561 ของ STARK ได้ว่าจ้างผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ของบริษัทดีลอยท์ฯ เข้ามาตรวจสอบและรับรองงบการเงินตั้งแต่ปี 2561 ในฐานะผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้แสดงความเห็นของผู้สอบบัญชีต่องบการเงินแบบไม่มีเงื่อนไข หรือเรียกว่างบการเงิน “คลีน” ทำให้นักลงทุนไม่มีข้อสงสัยหรือข้อควรระวังในการลงทุน

สำหรับในปี  2564 บริษัทดีลอยท์ฯและ นายนันทวัฒน์ สำรวญหันต์ ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และเป็นหุ้นส่วนสำนักงานด้านการสอบบัญชี อยู่ในสังกัดของบริษัทดีลอยท์ฯ กระทำการโดยปล่อยปละละเลย ไม่เอาใจใส่เยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพผู้สอบบัญชี ไม่ได้ทำการตรวจสอบ ติดตามเรื่องต่อในงบการเงินปี 2564 ทั้งที่งบดุลและงบการเงินของ STARK มีข้ออันควรตรวจสอบ  เช่น การลงทุนซื้อบริษัทในประเทศเวียดนาม  มีการลงบัญชีไม่ถูกต้องในระดับไม่มีความน่าเชื่อถือ  มีพฤติกรรมในการลงบัญชีโดยสร้างยอดขายปลอม

ทั้งนี้ บริษัทในเครือจ่ายเงินแทนลูกหนี้จ่ายภาษีขายจากยอดขายที่ไม่เกิดขึ้นจริง สร้างรายจ่ายปลอมโดยจ่ายให้บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด รับชำระหนี้ปลอมจากบริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มูลค่าสินค้าคงเหลือเกินจริง บันทึกต้นทุนขายและสินค้าคงเหลือเกินจริง บันทึกลูกหนี้ไม่ถูกต้อง เหล่านี้เป็นต้น เพื่อให้เห็นว่า STARK มีผลประกอบการที่ดีน่าลงทุนทั้งๆ ที่มีพฤติกรรมในการลงบัญชีอันเป็นเท็จการลงบัญชีไม่ถูกต้องในระดับไม่มีความน่าเชื่อถือ

นายอำพลเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ตนเองในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ของ STARK ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการ ก.ล.ต.ดำเนินคดีผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและบริษัทดีลอยท์ฯ ในกรณีละเลยฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 กรณี STARK ไปลงทุนซื้อกิจการบริษัทในประเทศเวียดนาม

ต่อมาวันที่ 29 มีนาคม 2567 ทางก.ล.ต.ตอบหนังสือมาสั้นๆ ว่า ก.ล.ต.ยังไม่พบข้อสงสัยเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 89/29 แห่งพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯของ STARK  เนื่องจากการปฏิบัติตามประกาศที่ว่าด้วยการได้มาและจำหน่ายทรัพย์สินในการลงทุนในบริษัทย่อยที่ประเทศเวียดนามนั้นได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ให้ความเห็นชอบประกอบการพิจารณา

โดยวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ตัวแทนสมาชิกกลุ่มผู้เสียหาย กลุ่มกู้หุ้น STARK ทำจดหมายถึงประธานก.ล.ต.ขอให้ดำเนินคดีอาญากับผู้สอบบัญชีรับอนุญาต พิจารณาโทษทางจรรยาบรรณ และตรวจสอบระบบควบคุมคุณภาพ  ต่อมาวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ก.ล.ต. ตอบว่า  ก.ล.ต.ต้องให้โอกาสผู้สอบบัญชีชี้แจงโต้แย้งอย่างเพียงพอ และปัจจุบันก.ล.ต.ไม่มีอำนาจในการกำกับดูแลและลงโทษสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน

สำหรับเนื้อหาที่ก.ล.ต.ตอบหนังสือกลับมายังผู้เสียหายทั้ง 2 ฉบับ ดูเหมือนประหนึ่งไม่ให้ความสำคัญกับคำถามคำตอบไม่ได้ลงในรายละเอียดไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่ ก.ล.ต.มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรง และเป็นผู้ให้ความเห็นชอบในการตรวจสอบงบการเงินของผู้สอบบัญชีในตลาดทุน  ซึ่งก.ล.ต.มีอำนาจในการเพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีนั้นได้  ตามมาตรา 62 วรรค 2 แห่งพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

ในหนังสือเปิดผนึกที่ยื่นต่อก.ล.ต.วันนี้ยังตั้งคำถามด้วยว่า เหตุใดเมื่อเกิดปรากฏการณ์ STARK มูลค่าความเสียหายสูงถึง 43,525 ล้านบาท แต่มีผู้บริหารอาวุโสตำแหน่งสำคัญที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสและประธานคณะกรรมการ บริษัทดีลอยท์ฯ จึงยังนั่งเป็นคณะกรรมการ ก.ล.ต.ในคณะปัจจุบัน เป็นความเหมาะสมหรือไม่ เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ และส่งผลให้ก.ล.ต.ไม่สามารถแก้ไขปัญหากรณี STARK จนถึงวันนี้ใช่หรือไม่

ตอนท้ายของหนังสือระบุว่า เหตุการณ์หรือปรากฏว่าที่เกิดขึ้นกับ STARK เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทำงานที่หละหลวม  ไม่มีการพัฒนามีการเอื้อประโยชน์กันในตลาดทุนละเลยละเว้นหน้าที่ตามบทบัญญัติกฎหมายอย่างร้ายแรง จึงขอให้ทาง ก.ล.ต. เร่งออกมาตรการเด็ดขาด  เพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชี นายนันทวัฒน์ สำรวญหันต์ สังกัดของบริษัทดีลอยท์ฯ และลงโทษทางปกครองตามอำนาจหน้าที่ของ ก.ล.ต.

Back to top button