KBANK ชี้กรอบ “เงินบาท” สัปดาห์หน้า 35.85-36.50 บ. จับตาตัวเลขเศรษฐกิจไทย
KBANK มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (29 ก.ค.-2 ส.ค.) ที่ระดับ 35.85-36.50 บาท/ดอลลาร์ แนะติดตาม “ธปท.” รายงานตัวเลขเศรษฐกิจและการเงินไทยเดือนมิ.ย. รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลการประชุม FOMC-BOJ และ BoE สัปดาห์หน้า
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (29 ก.ค.-2 ส.ค.67) ที่ระดับ 35.85-36.50 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดในประเทศวันที่ 26 ก.ค. ที่ระดับ 36.05 บาท/ดอลลาร์
โดยในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและยังคงรักษาทิศทางแข็งค่าไว้ได้ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เนื่องจากมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และการแข็งค่าขึ้นของเงินเยนซึ่งได้รับอานิสงส์จากการคาดการณ์ว่าอาจเห็น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ทำการคุมเข้มนโยบายการเงินในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค. นี้
ขณะที่ Sentiment เงินดอลลาร์ ตลอดทั้งสัปดาห์ถูกกดดันจากกระแสการคาดการณ์ว่าแม้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจคงนโยบายการเงินไว้ตามเดิมในการประชุมวันที่ 30-31 ก.ค. นี้ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC รอบถัดไปในเดือนก.ย
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 22-26 ก.ค. 67 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทย 20,442 ล้านบาท และ 85.5 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม FOMC (30-31 ก.ค.) BOJ (30-31 ก.ค.) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) (1 ส.ค.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนมิ.ย. ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และประเด็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนมิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี ISM และ PMI ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน