AOT จ่อยกเลิก “ดิวตี้ฟรี” ขาเข้า 1 ส.ค.นี้! รายได้ลดปีละ 1.72 พันล้าน

AOT เตรียมหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าตั้งแต่ 1 ส.ค.67 เป็นต้นไป ทำให้รายได้หายไปปีละประมาณ 1.72 พันล้าน พร้อมเดินหน้าหารายได้อื่นเพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลง


บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า ตามที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง (กค.) ศึกษาความเหมาะสมในการดำเนินมาตรการยกเลิกการอนุญาตให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้า ปลอดอากรขาเข้า รวมถึงการยกเว้นอากรของที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากรสำหรับผู้โดยสารขาเข้าเพื่อส่งเสริมการบริโภคและการใช้สินค้าภายในประเทศ

และมติ ครม. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่ประชุมได้มีมติรับทราบแนวทางการหยุดการดำเนินการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรด้านคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของผู้ประกอบการตามที่ กค.เสนอ โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงวงเงินใช้จ่ายในร้านค้าปลอดอากรขาเข้าดังกล่าว มากระจายหมุนเวียนในประเทศให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในภาพรวมได้มากยิ่งขึ้น นั้น

กค. โดยกรมศุลกากร (กศก.) ได้มีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ในการดำเนินการตามมติ ครม.ดังกล่าวข้างต้น ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ในการนี้ KPD จึงได้มีหนังสือถึง กศก. แจ้งยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ กศก.

พร้อมทั้งมีหนังสือถึง ทอท. แจ้งการหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้า ในพื้นที่ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จำนวนพื้นที่ประมาณ 1,870.69 ตารางเมตร, ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) จำนวนพื้นที่รวมประมาณ 217.45 ตารางเมตร และ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) จำนวนพื้นที่ประมาณ 162.46 ตารางเมตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม.ดังกล่าว

ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ ทอท. ชั้น 7 อาคารสำนักงานใหญ่ ทอท. ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้ KPD หยุดประกอบกิจการคลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้า ณ ทสภ., ทภก., ทชม., ทหญ.และ ทดม. โดยให้ ทอท.รับคืนพื้นที่ประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าดังกล่าวจาก KPD จำนวนพื้นที่โดยรวมประมาณ 2,250.60 ตารางเมตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การหยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้าของ KPD ดังกล่าวข้างต้นมีผลทำให้พื้นที่ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรของ KPD ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท.เปลี่ยนแปลงลดลง ซึ่งตามสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรระหว่าง ทอท. กับ KPD ได้กำหนดไว้ว่า ในกรณีพื้นที่ประกอบกิจการตามสัญญามีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้คิดค่าผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามจำนวนพื้นที่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง แล้วแต่กรณี

ดังนั้น ในกรณีนี้ จะทำให้ ทอท.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ ณ ทสภ., ทภก., ทชม., ทหญ. และ ทดม. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 1.70 ล้านบาท และค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนในช่วงปีสัญญา 2567 – 2568 ณ ทสภ. ลดลงเป็นจำนวนเงิน เดือนละประมาณ 126.25 ล้านบาท ณ ทภก., ทชม. และ ทหญ. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 8.41 ล้านบาทและ ณ ทดม. ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 6.96 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทอท.มีโครงการที่จะเพิ่มรายได้ จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป

Back to top button