TMAN จ่อขายไอพีโอ 102 ล้านหุ้น เข้าเทรด SET ชูเรือธงผลิตภัณฑ์ “Propoliz”
TMAN เตรียมพร้อมเข้าเทรด SET เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 102 ล้านหุ้น หลัง “ก.ล.ต.” นับหนึ่งไฟลิ่ง สำหรับเรือธงคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ Propoliz พ่วงเดินเกมขยายฐานลูกค้า-รุกเจาะกลุ่มโรงพยาบาล หนุนธุรกิจให้เติบโตยั่งยืนและก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ พร้อมชูจุดแข็งจัดจำหน่าย-กระจายสินค้าไม่ผ่านคนกลาง
นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งไฟลิ่งในการเสนอขาย IPO จำนวน 102 ล้านหุ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำเสนอข้อมูลเพื่อเสนอขายให้แก่นักลงทุนต่อไป
สำหรับ TMAN ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและหรือจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของประเทศไทย ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยากว่า 50 ปี ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ควบคู่กับการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ ให้แพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมสุขภาพที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น
โดยปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ผลิตและ/หรือจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ 2. รับจ้างผลิตเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก (OEM/ODM) และ 3. จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งเป็น 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1.ยาแผนปัจจุบัน 2.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง และ 4.ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ
“กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากสมุนไพรและสารสกัดจากธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯเป็นที่รู้จักคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ Propoliz ซึ่งเป็นสารสกัดที่ได้จากรังผึ้งมาดูแลและช่วยบรรเทาอาการทางช่องปากและลำคอ อาทิ Propoliz Mouth Spray เมาท์สเปรย์,ลูกอมโพรโพลิซ Propoliz Lozenge Plus นอกจากนี้บริษัทยังได้นำสารสกัด Propoliz มาพัฒนาสินค้าให้มีความหลากเพื่อเพิ่มมาร์จิ้นธุรกิจให้มากขึ้น โดบล่าสุดได้ทำเป็นยาสีฟันแบรนด์ “Propoliz Dente” ซึ่งได้วางจำหน่ายออนไลน์เท่านั้น” นายประพล กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับสารสกัด Propoliz ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของแบรนด์กลุ่มผลิตภัณฑ์ Propoliz โดยสารสกัดสำคัญดังกล่าวบริษัทกระจายความเสี่ยงในธุรกิจด้วยการมีพันธมิตรจากหลายฟาร์มเพื่อหาวัตถุดิบป้อนให้กับบริษัท ขณะเดียวกันบริษัทจะทำการสกัดตุนไว้ในช่วงที่ฤดูมีซัพพลายจำนวนมาก และต้นทุนต่ำทำให้บริษัทสามารถสกัดวัตถุดิบและเก็บได้หลายปี
อย่างไรก็ตามแม้สารสกัด Propoliz จะเป็นจุดขายเด่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรและสารสกัดจากธรรมชาติ แต่ธุรกิจบริษัทยังเน้นสัดส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันอยู่ที่ 60% และผลิตภัณฑ์สมุนไพรอยู่ที่ 40% นอกจากนี้ บริษัทยังนำนวัตกรรมเข้าไปช่วยให้เพิ่มมาร์จิ้นสินค้ามากขึ้น
นายประพล กล่าวอีกว่า จุดแข็งของบริษัทคือการจำหน่ายสินค้าและกระจายสินค้าเอง และมีทีมขายเป็นของบริษัทเอง ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งที่ต้องผ่านคนกลางในการกระจายสินค้า และการนำนวัตกรรมมาช่วยในการพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างมาร์จิ้นจากการที่บริษัทเป็นเจ้าของแบรนด์เวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพรวมทั้งสิ้นกว่า 800 ผลิตภัณฑ์ (SKUs)
อีกทั้งมีเครือข่ายกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งครอบคลุมทั้งร้านขายยา โรงพยาบาล คลินิกเวชกรรมและเสริมความงาม ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลเพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาลต่างๆมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทฯมุ่งมั่นคิดค้น วิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพนวัตกรรมด้านสุขภาพใหม่ต่อเนื่อง และเป็นเจ้าของแบรนด์เวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และนำเข้าภายใต้แบรนด์ของรวมกว่า 800 ผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ปี 2564-2566 เติบโตสม่ำเสมอทั้งรายได้และกำไร โดยในปี 2564 มีรายได้จากการขาย 1,259.90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 65.40 ล้านบาท ต่อมาในปี 2565 มีรายได้จากการขาย 2,016.60 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 472.5 ล้านบาท และในปี 2566 มีรายได้จากการขาย 1,972.20 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 431.10 ล้านบาท ตามลำดับ ทำให้กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 176.5% ต่อปี
ส่วนไตรมาส 1/2567 มีรายได้จากการขาย 587.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน 503.80 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 139.50 ล้านบาท ซึ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ
ด้านนายทินพันธุ์ หวั่งหลี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TMAN ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ ต่อก.ล.ต.ซึ่งได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และไฟลิ่งแล้ว
โดยปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 102 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.75 บาท คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.5 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ แบ่งเป็น 1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 71,430,000 หุ้น และ 2) หุ้นสามัญโดยผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนไม่เกิน 30,570,000 หุ้น
สำหรับวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนใหญ่จะนำไปขยายกิจการเป็นหลัก อาทิ 1.ใช้เป็นเงินทุนในการขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ และ 2) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
“อย่างไรก็ตาม ในส่วนของขั้นตอนการเข้าตลาดฯขณะนี้ก.ล.ต.นับไฟลิ่งแล้วเมื่อเดือนเม.ย. ขณะนี้รอจังหวะให้ตลาดหุ้นไม่ผันผวน เพื่อให้นักลงทุนที่เข้ามาได้กำไร และบริษัทเข้ามาได้เงินทุน และให้ราคาหุ้นขึ้นได้สดใสประมาณ 15-20% จากสถานการณ์ตลาดหุ้นผันผวนโดยมองอาจจะเข้าได้ในช่วงหลังเดือนส.ค. โดยยังมีเวลา 1 ปี จะเข้าตลาดฯหลังจากก.ล.ต.นับไฟลิ่งแล้ว โดยช่วงนี้รอจังหวะตลาดเพื่อให้ทุกอย่างออกมาดีมี และหากมีเม็ดเงินจากปัจจัยการตั้งกองทุนวายุภักษ์ 2 กองทุน ESG และการลดดอกเบี้ยชัดเจนคาดจะช่วยหนุนตลาดอีกทาง ส่วนเงิน IPO ระดมส่วนใหญ่จะนำไปขยายกิจการเป็นหลัก และเหลือบางส่วนในอนาตจะทำอะไรเพิ่มเติม และหลังจากเข้าตลาดฯบริษัทสามารถกู้ได้เพิ่มอีกเท่าหนึ่งถ้าในอนาคตมีแผนต้องใช้เงินเนื่องจาก D/E ต่ำเพียง 0.6 เท่า” นายประพล กล่าวเพิ่มเติม