“กรภัทร” มอง SET แกว่งตัวแดนบวก! แนะลงทุนกลุ่ม “พลังงาน-อิเล็กฯ-ค้าปลีก”
“กรภัทร” ชี้ SET แกว่งตัวแดนบวก! ให้แนวต้าน 1,330-1,335 จุด แนวรับ 1,300 จุด พร้อมแนะลงทุนกลุ่มพลังงาน-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-ค้าปลีก ชู PTTEP-HANA-CPALL เด่นสุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (1 ส.ค.67) ว่า ภาพรวมการประชุม FOMC เป็นไปตามที่ตลาดคาดโดยมีมติดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25 -5.50% นอกจากนี้ในช่วงการแถลงคณะกรรมการส่วนหารือและส่งสัญญาณที่จะลดดอกเบี้ย และมีโอกาสสูงที่ดอกเบี้ยจะปรับลดลงในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ Fed watch tool คาดมีโอกาสราว 89% ที่จะลดดอกเบี้ยครั้งแรกรอบ ก.ย.67 และทั้งปีนี้คาดลดลง 3 ครั้ง
ขณะเดียวกันภาพรวมของอุตสาหกกรมด้านเทคโลยีมีประเด็นนโยบาย “ชิป” ของประธานาธิบดี Biden ที่จะเข้มงวดขึ้น ล่าสุดในมีการชะลอการใช้ออกไปและคาดว่าจะไม่ได้ใช้กับชาติพันธมิตรเช่น ญี่ปุ่น ,เกาหลีใต้ และเนเธอร์แลนด์ ส่งผลให้ภาพการค้าโลกโดยรวมในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์จะไม่ได้กระทบมาก ดังนั้นทำให้ตัวกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีในเกาหลี,ไต้หวันฟื้นตัวขึ้นมาโดดเด่น
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นญี่ปุ่นวันนี้ปรับตัวลงแรงเนื่องจากผลการประชุม BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยสวนกับที่ตลาดคาดหมายว่าจะคงดอกเบี้ย และเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 2 ของปีนี้ โดยดอกเบี้ยนโยบายขยับอยู่ที่ 0.25% และมีการลดการซื้อพันธบัตรลงไตรมาสละ 4 แสนล้านเยน ภาพดังกล่าวทำให้ตัวสกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นมาจะไปปลายก.ค.อยู่ที่161เยน/ดอลลาร์ และล่าสุดหลุดระดับ 150 เยน/ดอลลาร์ ภาพดังกล่าวอาจเห็นการขายลดความเสี่ยง(Take Profit) เกิดขึ้น อีกทั้งต้องจับตาโครงสร้างเศรษฐกิจ และทิศทางกำไรจะออกมาอย่างไรกับจุดเปลี่ยนในด้านค่าเงินจึงทำให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงออกมาในช่วงนี้
ดังนั้นมองภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้จะประคองตัวในแดนบวกและสลับกลุ่มลงทุนในการผลักดันดัชนี โดยให้แนวต้าน 1,330-1,335 ส่วนแนวรับ 1,300 จุด เนื่องจากในช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมาถือว่าดัชนีปรับตัวดีสุดในปีนี้โดยปรับตัวขึ้นได้ 1.53% โดยตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกในหลายเรื่องได้แก่ 1.ภาพของความผันผวนจากมาตรการ “ชอร์ตเซล” ที่คลี่คลายลงไป, 2.นโยบายการขับเคลื่อนของรัฐบาลเริ่มมีผล และ 3. ประเด็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุน Thai ESG ได้รับการอนุมัติ
ด้านหุ้นเด่นแนะนำลงทุนได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ได้รับปัจจัยในเรื่องของค่าเงินแข็งค่า และราคาน้ำมันที่ดีตัวขึ้นมาจากสถานการณ์จากความตึงเครียดสงครามตะวันออกกลาง
นอกจากนี้แนะนำหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA กลุ่มสมาร์ทโฟนกำไรเร่งตัวขึ้นเป็นภาพบวกและนโยบายไบเดนคลายลงทำให้เป็นภาพบวกกลุ่มกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และแนะนำกลุ่มค้าปลีก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL
ส่วนกรณีของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA มองราคาหุ้นตอบรับปัจจัยลบที่ผ่านมามากแล้ว ที่เหลือต้องติดตามความเสี่ยงเฉพาะตัวที่จะปรับแก้ไขในด้านต่างๆของบริษัท โดยเฉพาะโครงสร้างการบริหาร และการทำธุรกิจระยะสั้นกลางยาว โดยเฉพาะระยะสั้นการแก้ปัญหาการชำระคืนหนี้จะออกมาอย่างไร