CPF ปิดร่วง 3% แพนิก! กมธ.ถกปัญหา “ปลาหมอคางดำ” พร้อมเข้าสภาฯ “ผบห.” ยันไม่กระทบธุรกิจ

CPF ปิดร่วง 3% กังวลข่าวคณะกรรมาธิการสภาพิจารณาแก้ปัญหา "ปลาหมอคางดำ" เพื่อสอบหาต้นตอการแพร่ระบาด ฟากผู้บริหารมั่นใจไม่กระทบธุรกิจ คาดงบไตรมาส 2/67 พลิกมีกำไร


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (1 ส.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ณ เวลา 15:34 น. อยู่ที่ระดับ 23.10 บาท ลบ 0.90 บาท หรือ 3.75% สูงสุดที่ระดับ 24.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 22.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,298.48 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากวงการนักวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ราคาหุ้น CPF ปรับตัวลงเนื่องจากในขณะนี้ได้มีการนำปัญหาเข้าไปหารือในคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ CPF ขณะที่มีการคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/67 จะเติบโต 353% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พลิกจากขาดทุน 792 ล้านบาท ในไตรมาส 2/66 ภายหลังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาสุกรในประเทศไทย จีน และเวียดนามที่ปรับตัวดีขึ้น

ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร CPF พร้อมคณะได้เดินทางเข้าชี้แจงกรณีปลาหมอคางดำกับ คณะกรรมาธิการการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (กมธ.อว.) ของสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.พรรคไทยสร้างไทย เป็นประธานและ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.พรรคก้าวไกล รองประธาน ซึ่งหลังจากมีการตั้งข้อสงสัยถึงการขออนุญาตนำเข้าปลาหมอคางดำมาวิจัยพัฒนาในอดีตแต่ได้ยุติโครงการไปอาจเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาด ขณะที่บริษัทยืนยันว่าได้ทำลายปลาทั้งหมดไปแล้ว

นพ.วาโย ในฐานะ ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหารวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ กล่าวว่า ข้อสรุปที่ได้มีการหารือกันในที่ประชุมเช้าวันนี้เกี่ยวกับการฟ้องร้องในคดีต่างๆ นั้น ยอมรับว่าอาจฟ้องคดีอาญาได้ยากแต่มีความเป็นไปได้ที่จะฟ้องคดีแพ่งและคดีการปกครองกับผู้ที่เป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของประเทศ

ขณะที่ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่าวันนี้ อนุกมธ.ได้เชิญ สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมถึง นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เข้าพูดคุยเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อมที่จะสามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม นายวิษณุไม่ได้มาร่วมประชุม

นอกจากนี้การที่ต้องเชิญมาพูดคุยเพราะประชาชนเตรียมที่จะฟ้องหน่วยงานภาครัฐหากหน่วยงานยังนิ่งนอนใจ ไม่ดำเนินการใดๆ ก็ต้องแบกความรับผิดชอบและภาษีของประชาชน กมธ.จึงต้องเดินหน้าเพื่อหาต้นตอสาเหตุของเรื่องนี้ให้ได้ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องกฎหมายทั้งหมด และจะส่งหนังสือไปยังหน่วยงานและหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งกรมประมง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ขณะที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เพราะปลาหมอคางดำส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศอย่างมหาศาล ไม่สามารถปฏิเสธได้ ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องยืนหยัดเคียงข้างเกษตรกร ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ต้องบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนทั้ง 17 จังหวัด รวมถึงนายกรัฐมนตรี ต้องนั่งหัวโต๊ะเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ อย่าให้ครหาหาว่าแอ็คชั่นทุกเรื่อง แต่จุดจบเหมือนกัน เพราะหมูเถื่อนก็เงียบหาย

“ผมจะไม่ยอมให้ปลาเถื่อน จบแบบหมูเถื่อน…มีตัวอย่างชัดเจนแค่ตำบลเดียว คาดว่าเสียหายปีละ 100 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้ประเมินมูลค่าทั้งหมด แต่คร่าวๆ อาจถึง 10,000 ล้านบาท” นายณัฐชา กล่าว

Back to top button