“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ นักลงทุนวิตก “เศรษฐกิจสหรัฐ” ถดถอย หลังตัวเลขภาคการผลิตหดตัว

“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดลบ นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย หลังตัวเลขภาคการผลิตปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 ในเดือนก.ค. ต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 66 ขณะที่ เกาหลีใต้เปิดตัวเลขเงินเฟ้อแตะระดับ 2.6% ในเดือนก.ค. สูงกว่าคาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดหุ้นเอเชียเปิดร่วงลงในวันนี้ (2 ส.ค.67) โดยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี (1 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญภาวะถดถอย หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอ และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด

โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 37,444.17 จุด ร่วงลง 682.16 จุด หรือ ลบ 1.79%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 17,025.26 จุด ลดลง 279.7 จุด หรือ ลบ 1.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,913.02 จุด ลดลง 19.37 จุด หรือ ลบ 0.66%

ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ร่วงลง 2.02% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดิ่งลง 2.6% ขณะที่ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้านี้ได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดทำให้เกิดกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และยังทำให้นักลงทุนมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความล่าช้าเกินไปในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ขณะที่ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 46.8 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 จากระดับ 48.5 ในเดือนมิ.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 48.8

ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยได้รับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานในภาคการผลิตที่หดตัวลง

อีกทั้งกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 249,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 236,000 ราย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเช้านี้ ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.5%

Back to top button