โบรกแนะ “ซื้อ” FM  เป้า 8.90 บาท ลุ้นกำไร Q2 โต 1 เท่าตัว รับธุรกิจไก่แปรรูปเด่น

โบรกเชียร์ “ซื้อ” FM ราคาเป้าหมาย 8.90 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/67 เติบโต 137% แตะ 205 ล้านบาท หลังรับอานิสงส์แนวโน้มอุตสาหกรรมไก่แปรรูปปรุงสุกเติบโตเด่น และมีแผนขยายกำลังผลิต ดันส่งออกเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์


บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM คาดการณ์แนวโน้มกำไรปีนี้เติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากยอดขายและอัตรากำไรในไตรมาส 2/2567 คาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 130% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 68% จากไตรมาสก่อนเป็น 205 ล้านบาท โดยคาดการณ์ยอดขายเพิ่มขึ้น 27% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน

ขณะเดียวกันประเมินว่าในไตรมาส 3/2567 ไปจนถึงไตรมาส 4/2567 แนวโน้มยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของ FM คาดการณ์ว่าจะเพิ่ม 90% ในไตรมาส 3/2567 ส่วนทิศทางยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากการผลิตสินค้า CAV ให้กับลูกค้าใหม่และมีการเปิดตลาดใหม่ คือ ประเทศ UAE ซึ่ง FM เป็นหนึ่งในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไก่ไป UAE เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนั้นการที่ประเทศบราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่สดแช่แข็งอันดับ 1 ของโลกประสบปัญหาไข้หวัดนกระบาดทำให้มีการหยุดส่งออกไก่ไปจีนชั่วคราว รวมถึงบางพื้นที่ในยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งจากเหตุการณ์นี้นับเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยในการส่งออกไก่มากขึ้น

นอกจากนี้คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิช่วงครึ่งปีแรก 2567 คิดเป็น 63% ของประมาณการกำไรปีนี้ ซึ่งส่งผลให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการหุ้นซื้อขายที่ P/E 9.5 เท่า เทียบกับ P/E เฉลี่ยของกลุ่มที่ 13.5 เท่า โดยให้ราคาเป้าหมาย 8.90 บาท/หุ้น

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่าถึง FM โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.30 บาท โดย PER ที่ 15 เท่า มองเป็นโอกาสสะสมจากราคาที่ต่ำคิดเป็น PER 24F ที่ 7.5 เท่า ค่อนข้างต่ำเทียบกับ PER24F ของตลาดกลุ่มนี้ที่ 12 เท่า Dividend yield 5% และบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ

โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 จะเติบโตแข็งแกร่งจากธุรกิจการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก ซึ่งคาดการณ์มีกำไรสุทธิที่ 216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ เพิ่มขึ้น 77% เทียบไตรมาสจากไตรมาสก่อนหน้า อีกทั้งคาดการณ์รายได้รวมจะเติบโต 27% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 8% เทียบไตรมาสไตรมาสก่อนหน้าจากธุรกิจไก่ส่งออกแปรรูปที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และจีน

นอกจากนี้รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่บริษัทส่งออกกว่า 10 ประเทศ สัดส่วนรายได้ธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกคาดการณ์เพิ่มขึ้นที่ 37% จากไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 31% ซึ่งส่งผลให้อัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้น 16.50% จาก 11.30% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ 11.90% เทียบไตรมาส 1/2567 จากสัดส่วนธุรกิจไก่แปรรูปที่เพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นมากกว่าไก่สดชำแหละถึง 3 เท่า

โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 2567 เติบโต 106% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนและคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2567 เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเติบโตต่อเนื่องในช่วง 2 ปี (2568 – 2569) เฉลี่ย 20% จากการขยายกำลังการผลิตธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้น 30% ในปี 2569 และขยายไก่สดชำแหละเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2569 รองรับการส่งออกเติบโต ขณะที่บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งมี D/E ที่ต่ำ และมี ROE ที่สูงมีผลการดำเนินงานที่ทำกำไรต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ผลประกอบการ FM จะเติบโตอย่างยั่งยืนจากปัจจัยบวก ได้แก่ 1.ภาพรวมอุตสาหกรรมไก่ยังเป็นอันดับ 1 ในการบริโภคมากที่สุดและประเทศไทยติดในกลุ่ม 5 อันดับแรกในการส่งออกของโลก, 2.ประเทศไทยเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการเป็นผู้ส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) สอดคล้องกับที่บริษัทมุ่งเน้นธุรกิจกลุ่มนี้

รวมไปถึงปัจจัยที่ 3.แนวโน้มอุตสาหกรรมไก่ไทยเป็นช่วงขาขึ้น, 4.บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูป (CAV Products) มุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตราทำกำไรสูงสร้างกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน, 5.ขยายตลาดส่งออกกลุ่มประเทศใหม่ๆ และยังคงรักษาลูกค้าระดับไฮเอนด์พรีเมียมไว้ 6.พัฒนาออกสินค้าใหม่ปลายน้ำ (downstream) อย่างต่อเนื่อง และ 7.ขยายกำลังการผลิตไก่ชำแหละ เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน (supply chain optimization)

Back to top button