“ดาวโจนส์” ปิดลบ 611 จุด หวั่นเศรษฐกิจถดถอย หลังตัวเลข “จ้างงาน” ต่ำคาด
“ดาวโจนส์” ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุด หลัง “สหรัฐ” เปิดตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด ทำให้วิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันศุกร์ (2 ส.ค.) และดัชนี Nasdaq เข้าสู่ระยะปรับฐาน หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,737.26 จุด ลดลง 610.71 จุด หรือ -1.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,346.56 จุด ลดลง 100.12 จุด หรือ -1.84% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,776.16 จุด ลดลง 417.99 จุด หรือ -2.43%
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 179,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.30% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.64 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.10%
ข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ตัดสินใจผิดพลาดด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมนโยบายที่สิ้นสุดลงในวันพุธ (31 ก.ค.)
FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมของเฟดในเดือนก.ย.นั้น ได้พุ่งขึ้นเป็น 69.50% ในวันศุกร์ จาก 22% ในวันพฤหัสบดี
ตลาดยังถูกกดดันจากหุ้นอะเมซอนและหุ้นอินเทล ซึ่งร่วงลง 8.79% และ 26.06% ตามลำดับ หลังการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสและการคาดการณ์ที่น่าผิดหวัง
ดัชนี Nasdaq ร่วงลงมากกว่า 10% แล้วจากระดับปิดสูงสุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการยืนยันว่า ดัชนีได้เข้าสู่ระยะปรับฐานแล้ว หลังจากที่นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับราคาหุ้นที่สูงเกินไปในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง
ดัชนี S&P500 ปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. และดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงติดต่อกัน 2 วันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.66
หุ้นชิปยังคงปรับตัวลงต่อ และดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ของตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟียปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนหลังร่วงลง 2 วันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.63
อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิ้ล บวก 0.69% สวนทางตลาด หลังเปิดเผยยอดขาย iPhone ดีเกินคาดในไตรมาส 3/67 และคาดการณ์ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 นั้น หุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลงมากที่สุด หลังหุ้นอะเมซอนดิ่งลง 2 วันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.65
ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดที่ระดับ 23.39 หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับ 29.66 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.66