โบรกคัด 26 หุ้นเด่น รับ 4 ปัจจัยบวกเฉพาะตัว
“คิงส์ฟอร์ด” แนะนำลงทุน 26 หุ้นใน 6 กลุ่มใหญ่ ตอบรับ 4 ปัจจัยบวกเฉพาะตัว “มาตการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ตัวเลขส่งออก-การท่องเที่ยวฟื้น-เงินทุนต่างชาติไหลกลับ”
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ KINGSFORD ระบุในบทวิเคราะห์วานนี้ (6 ส.ค.67) แนะนำหลักทรัพย์ที่น่าลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตอบรับรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกําลังซื้อ, ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว, ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว, คาดหวังเงินทุนต่างชาติไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
โดยแนะนำเป็น 6 กลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่ 1.กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL
2.กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัว เช่น บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI, บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU, บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO, บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP, บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE และ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE
3.กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA, บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB และ บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH
4.กลุ่มลีสซิ่ง ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น เช่น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC, บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR
5.กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง เช่น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC
6.กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตหนีสงครามการค้า บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA และ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA