ITC-AAI โชว์งบฯไตรมาส 2 สวยคู่! หนุนโบรกอัพกำไรทั้งปี พ่วงราคาเป้าใหม่

ITC-AAI โชว์งบฯไตรมาส 2/67 และงวด 6 เดือนแรกเติบโตก้าวกระโดด รับยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ บล.ดาโอ ปรับกำไรสุทธิปี 67 เพิ่มขึ้น รวมถึงอัพราคาเป้าหมายใหม่ โดย ITC ปรับกำไรปี 67 เป็น 4.2 พันล้านบาท ราคาเป้าหมายใหม่ 30 บาท  ขณะที่ AAI กำไรเป็น 336 ล้านบาท ราคาป้าหมายใหม่ 9.50 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงายว่า บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง อย่าง บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC และ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลปรากฏว่าทำกำไรเติบโตก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน  อีกทั้งดีกว่านักวิเคราะห์และตลาดคาดการณ์เอาไว้

สำหรับ บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4,567.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.84%  จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,242.67 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,009.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.92% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 444.88 ล้านบาท สาเหตุหลักจากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นในทุกตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปอเมริกาและยุโรป สัดส่วนการขายสินค้าพรีเมี่ยมที่สูงขึ้น รวมไปถึงกลยุทธ์การปรับราคาของบริษัทฯ

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8,595.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.85% จากงวดเดียวของปีก่อนอยู่ที่ 6,829.51 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,830.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.40% จากงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 870.03 ล้านบาท โดยหลักๆจากการปรับตัวสู่ระดับปกติ สัดส่วนการขายสินค้าพรีเมี่ยมที่สูงขึ้น และกลยุทธ์การปรับราคาของบริษัทฯ

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.67 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.67 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 ส.ค.67 และกำหนดจ่าย 3 ก.ย.67

ด้านบล.ดาโอ ระบุว่า ผลการดำเนินงานของ ITC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท ถือว่าสูงกว่าตลาดและฝ่ายวิเคราะห์คาด เพิ่มขึ้น 25% หนุนโดยรายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 41% จากงวดเดียวของปีก่อนเนื่องจากฐานต่ำในช่วงไตรมาส 2/2566 ที่โดนกระทบจากปัญหา destocking และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 30% เป็นไปตามทิศทางยอดขาย สัดส่วนสินค้า premium ทรงตัวสูง และมีการกลับสำรองสินค้าคงคลังประมาณ 1% ของ GPM

ทั้งนี้ฝ่ายนักวิเคราะห์ปรับกำไรปกติปี 2567 ขึ้น 12% เป็น 4.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 80% จากงวดเดียวของปีก่อน โดยจากการปรับ GPM ขึ้นเป็น 27% จากเดิม 25% สูงกว่ากรอบเป้าหมายใหม่ของบริษัทเล็กน้อย ซึ่งมองว่าสัดส่วนสินค้า premium มีโอกาสทรงตัวสูงต่อเนื่องในครึ่งหลังปี 2567 แต่จะถูกชดเชยบางส่วนจากการเริ่มรับรู้ค่าเสื่อมโรงงานใหม่เต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 3/2567

นอกจากนี้มีการปรับรายได้ขึ้นเป็นโต เพิ่มขึ้น 18.5% จากงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งจากเดิมเพิ่มขึ้น 16.3% สำหรับไตรมาส 3/2567 เบื้องต้นคาดการณ์กำไรปกติจะโตต่อเนื่องจากงวดเดียวของปีก่อนจากฐานต่ำ แต่ทรงตัวหรืออ่อนตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า จากการเริ่มรับรู้ค่าเสื่อมโรงงานใหม่เต็มไตรมาส ต้นทุนทูน่าสูงขึ้น และในไตรมาส 2/2567 มีการกลับสำรองสินค้าคงคลัง แต่จะถูกชดเชยบางส่วนจากยอดขายดีขึ้นต่อเนื่องอานิสงส์ shipment บางส่วนที่เลื่อนจากไตรมาส 2/2567 และปัจจัยฤดูกาล

ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 30.00 บาท (เดิม 28.00 บาท) อิงปี 2567 PER ที่ 22 เท่า โดยมี catalyst จากส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงฟื้นตัวต่อเนื่อง product mix ปรับตัวดีขึ้นและอาจดีกว่าคาด และลูกค้าใหม่ทยอย ramp up

ส่วน บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,733.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.54%  จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,207.37  ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 299.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น1,042.11 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 26.24 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการที่ยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3,249.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.41% จากงวดเดียวของปีก่อนอยู่ที่ 2,611.97 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 541.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 449.73% จากงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 98.55 ล้านบาท เนื่องจากมีสัดส่วนของอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีราคาสูงเพิ่มขึ้นประกอบกับได้ประโยชน์จากการที่เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นมาร่วมด้วยบางส่วน

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรจากการดำเนินงานงวด 1 ม.ค. ถึง 30 มิ.ย.67 คิดเป็นการจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.1785 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 ส.ค.67 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 ก.ย.67

ด้านบล.ดาโอ ระบุว่า ผลการดำเนินงานของ AAI รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 336 ล้านบาท ถือว่าสูงกว่าตลาดและฝ่ายวิเคราะห์คาด เพิ่มขึ้น 37% หนุนโดยยอดขายปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลักๆ จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (88% ของรายได้รวม) จากอุปสงค์ลูกค้ารายใหญ่ยังดี และอานิสงส์การทยอยออกสินค้าใหม่ และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 25.7% เป็นไปตามสัดส่วนรายได้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น ซึ่งมีGPM สูงกว่า ขณะที่บริษัทเลือกรับคาสั่งซื้อ Human food แบบ selective มากขึ้น

ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ ปรับกำไรปกติปี 2567 ขึ้น 20% เป็น 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 160% จากงวดเดียวของปีก่อน โดยปรับสมมติฐานรายได้เป็นขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวของปีก่อน โดยจากเดิมเพิ่มขึ้น 16% (เป้าของ AAI อยู่ที่เพิ่มขึ้น19% จากงวดเดียวของปีก่อน) และปรับ GPM ขึ้นเป็น 23% จากเดิม 20.5% (เป้าใหม่ของ AAI อยู่ที่ 20-21%) เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2567 ดีกว่าคาดมาก

สำหรับไตรมาส 3/2567 เบื้องต้นประเมินกำไรปกติจะโตต่อเนื่องจากงวดเดียวของปีก่อน โดยจากฐานต่ำ แต่มีโอกาสชะลอจากไตรมาสก่อน จาก GPM ปรับตัวลงจากต้นทุนทูน่าสูงขึ้น แต่ถูกชดเชยบางส่วนจากแนวโน้มยอดขายยังดีต่อเนื่องตามปัจจัยฤดูกาล อานิสงส์การขยายผลิตภัณฑ์และตลาดใหม่ของลูกค้า และลูกค้าใหม่รายเล็กทยอย ramp up

ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.50 บาท (เดิม 9.00 บาท) โดย de-rate ปี 2567 PER ลงเล็กน้อยเป็น 18 เท่า จากเดิม 21 เท่า เพื่อสะท้อนปัจจัยท้าทายจากต้นทุนโดยรวมสูงขึ้น อย่างไรก็ตามเรายังชอบ AAI โดยมี catalyst จากส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงฟื้นตัวต่อเนื่อง และความคืบหน้าลูกค้ารายใหม่ในครึ่งหลังของปี 2567-ไตรมาส 1/2568

Back to top button