BAFS รายได้เพิ่ม-ค่าเสื่อมลด ดันกำไร Q2 โตทะลัก 3 เท่าตัว!

BAFS รายงานกำไรไตรมาส 2/67 ที่ระดับ 43 ล้านบาท เติบโต 307% จากปีก่อน ส่วนงวด 6 เดือนกำไร 126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102% รับรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าเสื่อมราคาปรับตัวลดลงจากปีก่อน


บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 และงวด 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวของธุรกิจก่องเกี่ยวและการเดินทางระหว่างประเทศของนักท่องเที่ยวเกือบทุกกลุ่ม ทำให้ไตรมาสนี้รายได้รวบของกลุ่มธุรกิจ Aviation เพิ่มขึ้น 12% โดยมีปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานเพิ่มขึ้น 15% เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Utlities เพิ่มขึ้น 28% โดยเพิ่มขึ้นจากปริมาณขนส่งน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ของโครงการระบบท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ (NFPT) ที่เพิ่มขึ้น 47% จากการทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น สุทธิกับการลดลงของรายได้ในกลุ่มธุรกิจ Power ที่ลดลงจากการสิ้นสุดสัญญาเงินอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder)

ขณะที่ EBITDA ในไตรมาส 2/67 มีจำนวน 398 ล้านบาก เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยหลักเพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจ Aviation จากภาพรวมกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณเติมน้ำมันอากาศยาน สำหรับภาพรวมของค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) เพิ่มขึ้น 12% จากค่าผลประโยชน์ตอบแทนจากการดำเนินกิจการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Airport Concession Fee: ACF) ที่เพิ่มขึ้นตามยอดปริมาณการเติมน้ำมัน, ค่าใช้จ่ายบุคลากร และค่าซ่อมแชมรถเติมน้ำมันอากาศยานที่ผันแปรตามการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก

สำหรับค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายลดลง 7% เนื่องจากตั้งแต่ไตรมาส 3/66 เป็นต้นมา กลุ่มบริษัทได้เปลี่ยนประมาณการอายุการให้ประโยชน์ของก่อส่งน้ำมันและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จากอายุการให้ประโยชน์เดิม 40 ปี เป็น 80 ปี นับจากวันที่ได้มาของสินทรัพย์เพื่อให้สอดคล้องกับอายุการให้ประโยชน์ตามการทบทวนโดยฝ่ายบริหารและผู้เชี่ยวชาญ ส่งผลให้ค่าเสื่อมราคาลดลงอากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สุทธิกับการนั้นที่กค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดใช้บริการของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) ตั้งแต่ปลายเดือนก.ย.66

ด้านต้นทุนทางการเงินสุทธิลดลง 1% จากการที่กลุ่มบริษัทมีการจ่ายชำระเงินกู้ยืมอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ในไตรมาส 2/67 มีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 43 ล้านบาท โดยคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.05 บาท และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 4%

Back to top button