“หุ้นเอเชีย” เปิดลบตามดาวโจนส์ หลัง “บอนด์ยีลด์” ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (8 ส.ค.67) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงในวันพุธ (7 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นและจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอินเดียในวันนี้

โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ 34,645.79 จุด ลดลง 443.83 จุด หรือ ลดลง 1.26%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 16,773.04 จุด ลดลง 104.82 จุด หรือ ลดลง 0.62% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,864.76 จุด ลดลง 5.07 จุด หรือ ลดลง 0.17%

ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลง 1% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 0.3% ในช่วงเปิดตลาดขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 200 จุดในวันพุธ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้น หลังจากผลการประมูลพันธบัตรบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลกรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐด้วยนั้น จะทำให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มขึ้น และทำให้บริษัทต่าง ๆ มีต้นทุนการชำระหนี้ที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุนและลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

ขณะที่ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 1.533 ล้านล้านเยน ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.789 ล้านล้านเยน นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอินเดียในวันนี้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 6.5% ซึ่งจะเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 9