TNP รายได้ครึ่งปีแรกโต 11% แตะ 1.4 พันลบ. เคาะปันผล 0.0425 บ.
TNP กวาดรายได้ครึ่งแรกปี 67 เติบโต 11% แตะ 1,409 ล้านบาท รับอานิสงส์ยอดขายสาขาใหม่พุ่ง ลุยขยายเพิ่มแตะ 51 สาขาในปีนี้ รองรับเม็ดเงินดิจิทัลวอลเล็ตและการเที่ยวเมืองรอง หนุนรายได้สิ้นปีโต 10-15% ขณะที่เคาะปันผล 0.0425 บาท กำหนดจ่าย 5 ก.ย.นี้
เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 67 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 1,409.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144.03 ล้านบาท คิดเป็น 11.38% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากการเปิดสาขาใหม่ของบริษัท และการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากการเป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก เพิ่มรายได้ในส่วนขายส่งให้กับร้านค้า และมีรายได้อื่นจำนวน 7.70 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 244.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.92% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 17.36% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นดังกล่าวเกิดจากภาพรวมยอดขายที่เติบโต สนับสนุนให้มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 87.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.62% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 6.15
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 67 TNP มีรายได้จากการขายจำนวน 709.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.25% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักจากยอดขายของสาขาเดิมที่เติบโต 1.4% ทำให้มีกำไรขั้นต้น 122.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.82% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 17.20% ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 42.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.65% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 5.92%
ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 67 เป็นไปตามกลยุทธ์หลักในการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นรากฐานการเติบโตในอนาคต โดยครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทได้เปิดสาขาใหม่จำนวน 1 สาขา สนับสนุนให้ ณ สิ้นมิถุนายน 2567 บริษัทฯ มีสาขาทั้งหมดจำนวน 46 สาขา และในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ธนพิริยะเปิดสาขาใหม่อีก 1 สาขา รวมเป็น 47 สาขา อีกทั้งมีแผนเปิดเพิ่มอีก 4 สาขาในช่วงที่เหลือของปี สนับสนุนให้ในสิ้นปี ธนพิริยะจะมีสาขาทั้งสิ้น 51 สาขา
“ในปี 67 นี้ TNP ตั้งเป้าเติบโตอยู่ที่ 10-15% ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ด้วยการเดินหน้าขยายสาขา รับกำลังซื้อที่ฟื้นตัว และการบริหารงานที่ทันต่อสถานการณ์ บวกกับอานิสงส์ของนโยบายภาครัฐ ทั้งในส่วนของดิจิทัลวอลเล็ต ถ้าดีเดย์ อนุมัติใช้แล้วคาดว่าประชาชนจะเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านค้า กระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น นอกจากนี้ มาตรการสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นปัจจัยสนับสนุนบรรยากาศการใช้จ่ายภายในจังหวัดเชียงรายให้คึกคัก เนื่องจากเป็นจังหวัดแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ จึงมองว่าในปี 67 บริษัทฯ จะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง” เภสัชกรหญิงอมร กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดผลดำเนินงานงวด 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 67 ในอัตราหุ้นละ 0.0425 บาท ซึ่งกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 19 สิงหาคม 2567 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 พร้อมจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2567