CBG กวาดกำไร Q2 โต 43% เฉียด 700 ล้านบาท จ่ายปันผล 0.60 บ. ขึ้น XD 22 ส.ค. นี้

CBG รายงานกำไรไตรมาส 2/67 เติบโต 43% แตะ 690 ล้านบาท รับอานิสงส์จากรายได้กลุ่มธุรกิจและการรับจ้างขายผลิตภัณฑ์ภายนอก ขณะที่มีค่าใช้จ่ายการขายและบริหารลดลง พร้อมเคาะจ่ายปันผล 0.60 บาท ขึ้น XD 22 ส.ค.นี้


บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

บริษัทฯรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 690.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 481.52 ล้านบาท

โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 4,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากรายได้จากการดำเนินการผลิต ภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเองจำนวน 2,900 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากความหลากหลายและคุณภาพในตัวผลิตภัณฑ์ซึ่งทำให้สินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งจากประสิทธิภาพการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมของทุกช่องทางการขาย ได้แก่ การกระจายผ่านหน่วยรถเงินสดจำนวนมากกว่า 300 คัน ที่สามารถเข้าถึงร้านค้าปลีกทั่วประเทศ และการกระจายสินค้าในโครงข่ายผ่านช่องทางการค้าแบบดั้งเดิม (Traditional trade) ให้กว้างขวางและครอบคลุมในระดับอำเภอทั้งระเทศ ประกอบกับกลยุทธ์การนำ “เบียร์” มาเป็นเครื่องมือทำการตลาดจึงส่งผลให้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่บริษัทว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการผลิตจำนวน 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากกาแฟกระป๋อง RTD เป็นหลัก ซึ่งบริษัทยกเลิกจำหน่ายเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และพัฒนาสูตรใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 และเริ่มออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เป็นต้นมา โดยเป็นเครื่องดื่มกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่มที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟแท้คั่วสด ในราคา 15 บาทที่เข้าถึงได้

รวมถึงรายได้ขายอื่นจำนวน 261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นรายได้จากการผลิตและจำหน่ายขวดแก้ว กระป๋องอะลูมิเนียมและบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ให้แก่คู่ค้าซึ่งเป็นบุคคลภายนอกภายใต้การด าเนินงานของ APG ACM และ APM สอดคล้องกับยอดขายและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทคู่ค้า

ขณะที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 533 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ จากการควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งค่าใช้จ่ายการตลาด การส่งเสริมการขาย และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่บริษัทฯให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บอร์ดมีมติอนุมัติประกาศจ่างเงินปันผลระหว่างกาลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2567  และกำไรสะสม เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 22 ส.ค. 67 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 ก.ย. 67

Back to top button