PTT ยอดขายพุ่ง-กำไรสต๊อกนํ้ามัน ดันไตรมาส 2 โต 76% แตะ 3.5 หมื่นล้านบาท

PTT โชว์งบไตรมาส 2/2567 กวาดยอดขาย 8.21 แสนล้านบาท พร้อมรับรู้กำไรสต๊อกน้ำมันประมาณ 3 พันล้านบาท ดันกำไรสุทธิแตะ 35,469 ล้านบาท โต 76.4%


บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

สำหรับ PTT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 35,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 20,107 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายอยู่ที่ 821,943 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากงวดเดียวของปีก่อน 778,158 ล้านบาท

นอกจากนี้ รับรู้รายการที่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recuning items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของปตท. เป็นกำไรประมาณ 5,400 ล้านบาท โดยหลักจากกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้ บริษัท พิธี แอลเอ็นจี จำกัด (PE LNG) ของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) และกำไรจากการซื้อคืนหุ้นหุ้นกู้ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ขณะที่ในไตรมาส 2/2566 มีผลกำไรประมาณ 300 ล้านบาท โดยหลักจากกำไรจากการชื่อคืนหุ้นกู้ของ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP และ PTTGC

อีกทั้งในไตรมาส 2 ปี 2567 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 115,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,709 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.5 จากไตรมาส 2/2566 ที่จำนวน 92,625 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตบิโตรเลียมที่มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น จากปริมาณขายเฉลี่ยและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น กลุ่มธรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นโดยธุรกิจบิโตรเคมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ทั้งจากลุ่มโอเลฟินส์และอะโรมติกส์ โดยกลุ่มโอเลฟินส์เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เอทิลีนกับวัตถุดิบ รวมทั้งปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้นจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เบนซีน (Benzene:BZ) กับวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น

สำหรับธุรกิจการกลั่น มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหลักจากกำไรสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสต๊อกน้ำมันในไตรมาส 2/2567 ประมาณ 3,000 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 2/2566 มีผลขาดทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Maketet GRM) ลดลงจาก  4.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เวลในไตรมาส 2/2566 เป็น 3.0 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรสในไตรมาส 2/2567 โดยหลักจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และน้ำมันอากาศยาน กับน้ำมันดินดิบปรับลดลง

ขณะที่ไตรมาส 2/2567 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 2,065 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 7,905 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ที่มีต้นขายเพิ่มขึ้นขึ้นจากนโยบายSingle Pool แม้ว่าราคาชายโดยเฉลี่ยและปริมาณชายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นต้นลดลงจากรายได้ที่ลดลง แม้ว่าต้นทุนค่าเนื้อก๊าซฯ ปรับลดลงตามราคา Pool Gas อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ NGV มีผลขาดทุนลดลงจากต้นค่าเนื้อก๊าซฯ ที่ปรับลดลงตามราคา Pool Gas และปริมาณชายโดยรวมลดลง และธุรกิจระบบท่อส่งก๊าซฯ มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการจองใช้ท่อส่งก๊าชฯ ที่เพิ่มขึ้น

Back to top button