“ดาวโจนส์” ปิดบวก 51 จุด คลายกังวลศก.ถดถอย-จับตา CPI สัปดาห์หน้า
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 51 จุด นักลงทุนคลายกังวลเศรษฐกิจถดถอย-จับตา CPI-ยอดค้าปลีกสหรัฐเดือน ก.ค. สัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (9 ส.ค.) และปิดตลาดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในรอบสัปดาห์นี้ หลังฟื้นตัวขึ้นเกือบหมดจากการร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเกิดจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการลดการทำธุรกรรม carry trade ในสกุลเงินเยน ซึ่งเป็นการกู้ยืมสกุลเงินเยนที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำ เพื่อนำไปซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,497.54 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด หรือ +0.13%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,344.16 จุด เพิ่มขึ้น 24.85 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,745.30 จุด เพิ่มขึ้น 85.28 จุด หรือ +0.51%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.6%, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.05% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.2%
โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด และดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐนั้นลดลง หลังจากพุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์
ขณะที่ตลาดได้แรงหนุนจากการที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงมากพอที่จะสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง และเฟดจะพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อกำหนดขนาดและกำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ด้านเครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่ามีโอกาส 55% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 17-18 ก.ย. และมีโอกาส 45% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Take-Two Interactive Software ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวิดีโอเกม พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากคาดการณ์ผลประกอบการเพิ่มขึ้นในปีงบการเงิน 2569 และ 2570
ส่วนหุ้น Expedia ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านการเดินทางผ่านระบบออนไลน์ พุ่งขึ้น 10.2% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2 สูงเกินคาด
โดยในสัปดาห์หน้า บรรดานักลงทุนจะรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของสหรัฐ ซึ่งอาจบ่งชี้หลักฐานใหม่เกี่ยวกับโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือ soft landing