BBIK ปักธงปีนี้ “รายได้-กำไร” นิวไฮต่อ! หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 1.37 พันล้านบาท

BBIK ปักธงปีนี้รายได้-กำไรนิวไฮต่อ หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 1.37 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าคว้างานใหม่เพิ่มครึ่งหลังรับกระแส AI มาแรง และรับงานพัฒนาระบบ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ช่วยต่อยอดรับงานรัฐในอนาคตมากขึ้น เตรียมความพร้อมย้ายเข้า SET100 ในปี 68


นายพชร อารยะการกุลประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ BBIK เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 8 ส.ค.67 ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 41.27 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 110.26 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 708.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น16.73% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่  606.58 ล้านบาก โดยสาเหตุหลักมาจากความต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อรับมือสภาวะทางเศรษฐกิจและเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันทางธุรกิจทั้งในระยะสั้นและยาว ที่ส่งผลให้กระแสการทำดิจิทัลทรานล์ฟอร์เมชัน ยังคงถือเป็นความจำเป็นและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร, ประกันภัย, เทคโนโลยีและกลุ่มค้าปลีก ซึ่งมีผลต่อการเติบโตโดยเฉพาะธุรกิจการให้คำปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีให้กับองค์กร (DX) และการพัฒนาระบบงาน ERP รวมถึงการให้บริการ Corporate training

ทั้งนี้การเติบโตของรายได้กลุ่มบริษัทฯ มาจากทั้งการต่อยอดการให้บริการในกลุ่มลูกค้าเดิม รวบถึงการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีงานในมือ (แบ็กล็อก) ทำนิวไฮอยู่ที่ 1,377 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 506 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปี 2568-2572

ส่วนทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2567 คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายมากขึ้นและธุรกิจเข้าสู่ไฮซีซั่น และมองว่าธุรกิจจะช่วยหนุนให้ธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามทิศทางการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันหรือแผนงานที่เกี่ยวข้องกับระบบดิจิทัลยังอยู่ในกระแสความต้องการของภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะเทคโนโลยีมีการพัฒนาตลอดเวลาและธุรกิจยุคใหม่ล้วนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและนวัตกรรม

นอกจากนี้การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งในส่วนของบริษัทแม่และบริษัทในเครือเต็มปี และการบริหารจัดการภายในเพื่อลดต้นทุน รวมถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจที่บริษัทฯลงทุนไปก่อนหน้านี้ อาทิ บริษัทร่วมทุน ซอส สกิลส์ หนุนให้ภาพรวมของผลประกอบการปี 67 สามารถทำนิวไฮต่อเนื่องได้อีกครั้ง

“ส่วนแบ็กล็อกในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีเข้ามาเพิ่มเติมจากระดับ 1.37 พันล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งหลังมีหลายบริษัทสนใจที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้ในธุรกิจโดยมีทั้งโปรเจกต์ขนาดใหญ่และขนาดเล็กและมากกว่าครึ่งปีแรก แต่อย่างไรก็ตามช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทโฟกัสมากสุดและสำคัญที่สุดคือการทำรายได้และกำไรปีนี้ให้นิวไฮ” นายพชร กล่าว

นายพชร กล่าวอีกว่า สำหรับแผนนำบริษัทเข้า SET100 ในปี 2568 บริษัทเชื่อว่ายังมีความเป็นไปได้ และเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับบริษัท และมองว่ามีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าคือความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ซึ่งจะเห็นได้ว่าไทยความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศถดถอยลงไปมากช่วงนี้ เพราะฉะนั้นความเชื่อมั่นตรงนี้ก็จะมีผลต่อราคาหุ้น ดังนั้นบริษัทก็ต้องมาพิจารณาว่าจะสร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่มนักลงทุนต่างๆอย่างไร และหากผลประกอบการเติบโตตามแผนและสร้างความมั่นใจได้ดีขึ้นโอกาสที่จะเข้าไปใน SET100 ก็คาดว่าจะเป็นเป็นได้

สำหรับงานของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGAที่บริษัทเข้าไปรับและช่วยพัฒนาแอป“ทางรัฐ” ในส่วนนี้ทาง DGA เป็นผู้พัฒนาแอปมาก่อนและมีการใช้งานจริงอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าล่าสุดต้องมีการพัฒนาปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพ และมีฟังชั่นที่ทันสมัยมากขึ้น และต้องพัฒนาระบบเพื่อให้รองรับผู้มาลงทะเบียนระดับ 50 ล้านคนซึ่งตรงนี้เป็นความเชี่ยวชาญของบลูบิคในการพัฒนาระบบขนาดใหญ่ และถือว่าเป็นงานที่บริษัทได้รับและทำสำเร็จด้วยดี แต่อย่างไรก็ยังมีส่วนอื่นๆที่ยังต้องพัฒนาเพื่อช่วยเพิ่มฟังชั่นให้กับทาง DGA เพิ่มเติมอีก

แน่นอนว่าหลังจากที่บริษัทได้รับงานจาก DGA ครั้งนี้บริษัทมองว่าจะมีหลายๆหน่วยงานรู้จัก “บลูบิค” มากขึ้นและมีความเชื่อมั่นบริษัทมากขึ้นด้วย และจะช่วยให้บริษัทมีโอกาสได้ความงานขนาดใหญ่จากทางภาครัฐได้ และกระจายพอร์ตมาสู่งานภาครัฐได้มากขึ้น

ส่วนธุรกิจVirtual Bankบริษัทจะได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยส่วนหนึ่งบบริษัทให้บริการกับสถาบันการเงินและบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการเงินจำนวนมาก และมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เยอะ และช่วงนี้บริษัทได้มีการพูดคุยกับบริษัทตัวเต็งที่จะได้ไลเซ่นส์ เพื่อเข้าไปทำVirtual Bankและพยามจะหาจุดที่จะเข้าไปช่วยในการทำธุรกิจ แต่ยังไม่นิ่งเนื่องจากหลายๆเจ้ายังมีการปรับเปลี่ยนพาร์ทเนอร์ชิพโมเดลภายในต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีการพูดคุยกับบริษัทที่เป็นตัวเต็งอยู่เรื่อยๆ

“นอกจากนี้การประกาศแต่งตั้งนายสันติธาร เสถียรไทย เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการและกรรมการอิสระ เพื่อร่วมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมบริหาร อีกทั้งมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมหภาคและดิจิทัล ครอบคลุมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจะช่วยเสริมทัพในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ และยกระดับศักยภาพการแข่งขันของบลูบิคให้สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในฐานะคอนซัลต์ชั้นนำระดับโลกแบบครบวงจร” นายพชร กล่าวทิ้งท้าย

สรุปข้อมูสำคัญของข้อมูลจดทะเบียน (Company Snapshot)

3M/67

Back to top button