SVR กำไรไตรมาส 2 แตะ 22 ล้าน กางแผนครึ่งปีหลัง ผุด 3 โครงการ มูลค่า 2.4 พันลบ.

นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 148.70 เทียบจากช่วงไตรมาสแรก ที่มีกำไรสุทธิ 8.83 ล้านบาท และใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 23.28 ล้านบาท

โดยมีรายได้จากการพัฒนาโครงการเพื่อขาย 306.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.05 เมื่อเทียบจากช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของการขายโครงการอย่างต่อเนื่อง ทั้งบ้านประเภทบ้านเดี่ยว, บ้านแฝดและทาวน์โฮม ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จาก 7 โครงการ ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ ซิตี้ (นิคมพัฒนา – ระยอง), โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท – บางปู), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท – บางปู), โครงการ สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู 58), โครงการสิวารมณ์ ปาร์ค (วงแหวน – ประชาอุทิศ 76) และโครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (วงแหวน – ชัยพฤกษ์)

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนการเปิดโครงการใช้ช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่ารวม 2,358 ล้านบาท แบ่งเป็นในช่วงไตรมาส 3/2567 บริษัทฯเตรียมเปิดอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ สิวารมณ์ ไฮด์ (พุทธมณฑลสาย 3) ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ Art Deco บนทำเลพุทธมณฑลสาย 3 ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท และ 2. โครงการ แกรนด์ สิวารมณ์ 2 (สุขุมวิท-บางปู) เป็นบ้านสไตล์วิคตอเรียน (Victorian style) บนถนนสุขุมวิท – บางปู และทั้ง 2 โครงการ คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/2567

ขณะที่ไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวอีก 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ สิวารมณ์ เนเจอร์ พลัส (บางปู 104) เป็นโครงการทาวน์โฮมสไตล์ Bergen ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป ดังนั้นจากโครงการใหม่ รวมถึงโครงการเดิม ส่งผลให้บริษัทฯ มีโครงการในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องถึงปี 2568-2569

“ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2567 มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงดีมานด์ของกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีความต้องการบ้านภายใต้โครงการสิวารมณ์ ส่งผลให้ยอด Presale เติบโตอย่างเห็นได้ชัด  ขณะเดียวกันบริษัทฯ เชื่อว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตสู่ระดับ High Growth พร้อมตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้เพิ่มขึ้น 35-50% จากโครงการใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงโครงการเดิมที่ยังคงทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง” นายรณฤทธิ์ กล่าว