AH เปิดงบครึ่งปีแรก 67 กำไร 422 ล้านบาท รุกขยายตลาดตปท. ดันยอดขายเพิ่ม

AH เปิดผลประกอบการครึ่งแรกปี 2567 กำไร 422 ล้านบาท หลังไตรมาส 2 ยอดขายโปรตุเกส-มาเลเซียโต โรงงานผลิตระบบไอเสีย Purem AAPICO ถึงจุดคุ้มทุน เดินหน้าทยอยจ่ายคืนหนี้


นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH รายงานผลประกอบในไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 103 ล้านบาท และมีรายได้รวม 6,494 ล้านบาท ลดลง 11.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 7,354 ล้านบาท เหตุจากกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตของรายได้จากธุรกิจในประเทศมาเลเซียและโปรตุเกส

โดยธุรกิจผลิตชิ้นส่วนในประเทศโปรตุเกสเติบโต 12.70% ในขณะที่การดำเนินธุรกิจในประเทศมาเลเซียเติบโต 26.30% จากธุรกิจร่วมทุนผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ร่วมกับพันธมิตรภายใต้บริษัทอาปิโก อาร์วี จำกัด และยอดขายที่เพิ่มของธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการรถยนต์

นอกจากนี้ โรงงานผลิตระบบควบคุมไอเสีย Purem AAPICO ที่ได้เริ่มมีการผลิตและส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสก่อน ได้ผ่านจุดคุ้มทุนของการดำเนินธุรกิจ และพลิกทำกำไร 15 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,074 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 422 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยความเข้มงวด ในการขออนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ และยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งปีแรก อีกทั้งยอดขายรถยนต์ลดลงกว่า 24% และยอดการผลิตลดลง 17% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2566

ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่กำไรมีการปรับตัวลดลง มาจากปริมาณออเดอร์ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในประเทศไทยจากสภาพอุตสาหกรรมที่อ่อนตัวลงตามสภาพเศรษฐกิจ และผลกระทบทางบัญชีจากการลดปริมาณสินค้าคงเหลือในประเทศโปรตุเกส

“จุดแข็งของอาปิโกในสถานการณ์ปัจจุบันคือเรามีฐานะทางการเงินและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง หลังจากที่ขายธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศอินเดียไป บริษัทได้นำเงินสดส่วนหนึ่งมาทยอยลดภาระทางหนี้สิน เพื่อลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเป็นจำนวน 4.8 พันล้านบาท หรือ IBD/E ที่ระดับ 0.4 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ระดับ 0.6 จึงอยากให้นักลงทุนมั่นใจว่าบริษัทยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากสถานการณ์ภาพรวมของอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว และมีเงินสดเพียงพอสำหรับโอกาสการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต” นายเย็บ ซู ชวน กล่าว

สำหรับครึ่งหลังของปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าทยอยจ่ายคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุน ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เพื่อประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงสุด

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มีการมุ่งเน้นหาลูกค้าและออเดอร์ใหม่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยปัจจุบันมีโครงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ใหม่จากประเทศโปรตุเกสเข้ามาเพิ่มเติม และจะเริ่มมีการรับรู้รายได้ช่วงประมาณไตรมาส 4 ปี 2567 นี้

Back to top button