NAM มั่นใจรายได้ปี 67 ออลไทม์ไฮ ลุยขยายฐานลูกค้าเต็มสูบ
NAM โชว์ผลงาน Q2/67 กำไรแตะ 40 ล้านบาท โต 16% เดินหน้าลุยซื้อหุ้น “Reintech Sdn. Bhd.” สัดส่วน 60% สยายปีกสู่มาเลเซีย มั่นใจรายได้ปี 67 เติบโตเข้าเป้า 13-15% ทำ “ออลไทม์ไฮ”
นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM ดำเนินธุรกิจ ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 231.62 ล้านบาท
โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 226.45 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 126.24 ล้านบาท กลุ่มผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์จำนวน 60.86 ล้านบาท กลุ่มการให้บริการการฆ่าเชื้อ CSSD บริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการกำจัดของเสีย จำนวน 38.20 ล้านบาท และส่วนที่เหลือมาจากรายได้อื่นๆ
ขณะที่มีกำไรสุทธิ 40.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.24% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 34.44 ล้านบาท เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามภาครัฐมีแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณฯ ดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมาย
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/67 ได้มีมติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญของ Reintech Sdn. Bhd. ในสัดส่วน 60% ของหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของ Reintech Sdn. Bhd. ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งภายใต้กฎหมาย ประเทศมาเลเซีย ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยมีการจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์กลุ่มด้านการล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งมีธุรกิจเช่นเดียวกับนำวิวัฒน์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ปี 67 จะเติบโตจากการขายเครื่องมือแพทย์ทั้งในประเทศและจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปตลาดต่างประเทศ โดยคาดการณ์ความต้องการใช้เครื่องมือเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้นตามนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้คนไทยเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึง ประกอบกับนโยบาย Medical Hub และ Medical tourism ศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางการแพทย์ครบวงจรและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
อีกทั้งบริษัทฯ วางแผนกลยุทธ์ ขยายฐานรายได้กลุ่มงานบริการจากการร่วมมือกับพันธมิตร มองหาการลงทุนในต่างประเทศเพื่อต่อยอดธุรกิจ ขยายการขายในต่างประเทศ และขยายกลุ่มตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นฐานในการกระจายสินค้า อีกทั้งมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Healthcare รวมถึงมุ่งเน้นงานนวัตกรรม วิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม B2C ประกอบกับขยายโรงงานเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้