SET รูด 16 จุด หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน “เศรษฐา” พ้นตำแหน่งนายกฯ

SET รูด 16 จุด หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากผิดวินัยร้ายแรงจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี  


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายวันนี้(14 ส.ค.67) ณ เวลา 15:32 น. อยู่ที่ 1,282.04 จุด ลดลง 15.75 จุด หรือ 1.21% สูงสุดที่ 1,306.88 จุด ต่ำสุดที่ 1,280.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,755.52 ล้านบาท

ทั้งนี้การปรับตัวลงของ SET INDEX เป็นผลมาจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากความเป็นานายกรัฐมนตรี เนื่องจากผิดวินัยร้ายแรงจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี

โดยวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติ ก่อนออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดี กรณีคดีนี้ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดเดิม 40 คน ได้ยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภา ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ กรณีนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่

ล่าสุด เวลา 15.00น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย ผลปรากฎว่ามติ 5 ต่อ 4 ความเป็นนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเพราะไม่มีความซื่อสัตย์ทุจริต และไม่ปฏิบัติตามหลักจริยธรรมอย่างร้ายแรง และคณะรัฐมนตรีต้องพ้นทั้งคณะ

ด้านนายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด ตอบรับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งพร้อมคณะรัฐมนตรีทั้งชุด ทั้งนี้ตามกระบวนการหลังจากนี้ต้องเลือกนายกคนใหม่ พร้อมกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทั้งหมด ซึ่งระยะสั้นจะสร้างแรงกดดันต่างๆต่อนโยบายรัฐบาลที่เคยเป็นชูโรงของนายกฯ โดยเฉพาะ Digital Wallet ซึ่งกระทบกับกลุ่มค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL ,DOHOME ,HMPRO) และกองทุนวายุภักษ์ อย่างไรก็ตามยังมองบวกกับดัชนีและมองการปรับฐานเป็นโอกาสสะสม บนสมมติฐานทุกอย่างจะค่อยๆคลี่คลาย ให้แนวรับที่ 1,270 จุด และแนวต้าน 1,290 จุด

ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ทางฝ่ายประเมินว่าดัชนี SET Index มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,250 จุด ท่ามกลางควางกังวลเสถียรภาพของการเมืองไทย และมาตรการทางเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีแนวโน้มสะดุดลง โดยเฉพาะโครงการ Digital Wallet แล้วจากนั้น SET Index จะรอติดตามการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่อาจใช้เวลาประมาณ 1 เดือน และนโยบายของรัฐบาลใหม่ในขั้วเดิมก่อนเลือกทางอีกครั้ง ซึ่งหากการเลือกนายกรัฐมนตรีดำเนินไปได้ปกติ กล่าวคือไม่เกิดภาวะสุญญากาศเป็นเวลานาน และรัฐบาลใหม่มีนโยบายที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะส่งผลให้ SET Index มีแนวโน้มที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวในระยะถัดมา

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำลงทุนในหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจภายนอก หรือหุ้นที่ยืนแกร่งกว่าตลาด ได้แก่ 1.หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้า : AAI, CPF, DELTA, GFPT, ITC, KCE, SAPPE, TU, XO, 2.หุ้นในกลุ่ม REITs: FTREIT, LHHOTEL, WHART และ3.    หุ้นที่ยืนแกร่งกว่าตลาด: ADVANC, CBG, GULF, RATCH, STEC

Back to top button