MENA แย้มครึ่งปีหลัง “ธุรกิจโลจิสติกส์-TDM” สดใส! รับพันธมิตรต่อยอดธุรกิจ
MENA ประเมินครึ่งปีหลังผลงานเติบโตต่อเนื่อง รับปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐและโครงการดิจิตอลวอลเล็ต หนุนธุรกิจโลจิสติกส์-TDM พร้อมโชว์ผลงานไตรมาส 2/2567 เดินหน้าหาพันธมิตรใหม่ในการขนส่ง e – commerce เพื่อขยายตลาดและเพิ่มศักยภาพธุรกิจ
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังของบริษัทฯ เชื่อว่ายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าธุรกิจโลจิสติกส์ในครึ่งปีหลังจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจการให้บริการ ขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกซ์เซอร์และธุรกิจการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งล่าช้ามาจากปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ภาครัฐเดินหน้าพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง มุ่งยกระดับการขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งทางราง ถนน นํ้า และอากาศ ทําให้การเดินทางเชื่อมต่อของระบบขนส่งเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจหลักของ MENA คือ การให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer)
นอกจากนี้การลงทุนของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นโดยขานรับกับการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล และโครงการดิจิตอลวอลเล็ต จะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจของ MENA และ TDM ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของ MENA โดยนอกจากจะทําให้ธุรกิจการก่อสร้างขยายตัวแล้ว ยังจะทําให้การขนส่งสินค้าอุปโภค บริโภคเพิ่มขึ้นอีกด้วย
“บริษัทฯ ยังคงมีแผนขยายงานขนส่งอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ผ่านทางการมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายตลาดร่วมกันโดย เฉพาะงานขนส่ง e-commerce ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นในการเข้าไปให้บริการของ MENA ซึ่งเป็นการเพิ่มฟลีทรถ และการบริหาร ฟลีทรถที่มีอยู่แล้วให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะเดียวกัน MENA จะใช้ความชํานาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการ ธุรกิจโลจิสติกส์ในการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อทําให้กําไรเติบโตไปพร้อม ๆ กับการเติบโตของรายได้ในส่วน ของบริษัทร่วมทุน TDM ก็มีแผนจะขยายฟลีทรถ เพื่อรองรับปริมาณงานที่จะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของ ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส รวมถึงสินค้าใหม่ของกลุ่มคาราบาว” นางสุวรรณา กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานตามงบการเงินเฉพาะกิจการงวด 3 เดือนปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 20.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 76 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.5 ล้านบาท สาเหตุที่สำคัญเกิดจากในระหว่างงวดสามเดือนปี 2567 บริษัทฯ รับรู้รายได้เงินปันผลจาก TDM จำนวน 13.2 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 200.3 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 188.4 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 6 %