‘จุลพันธ์’ รับแจกเงิน 1 หมื่นบาทสะดุด! หลังศาลตัดสิน ‘เศรษฐา’ พ้นนายกฯ
'จุลพันธ์' รักษาการ รมช.คลัง ยอมรับ โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท อาจสะดุด หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากยังมีขั้นตอนค้างอยู่และยังไม่ผ่านกระบวนการอนุมัติ
วันที่ 14 ส.ค. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการ รมช.คลัง กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องยอมรับคำวินิจฉัยที่ออกมา แต่กลไกก็ต้องเดินหน้าต่อ โดยสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่ประชุม เลือกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใหม่ และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ ส่วนยังสามารถรักษาการได้หรือไม่ ขอไปตรวจสอบรายละเอียดกฎหมายอีกครั้ง
ขณะที่จะมีผลกระทบต่อโครงการอื่นๆ ที่รัฐบาลดำเนินการ เช่น เงินดิจิทัลวอลเล็ต ยอมรับว่ามีผลกระทบแน่นอน เนื่องจากยังมีขั้นตอนค้างอยู่ และยังไม่ผ่านกระบวนการอนุมัติ โครงการจะสะดุดเป็นบางส่วน และกระบวนการหลังจากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ จะมีขั้นตอนแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอีกครั้ง
ส่วนไทม์ไลน์การเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะเริ่มใช้จ่ายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้นั้น คงไม่สามารถไปทำอะไรตรงนั้นได้ จนกว่าจะมีความชัดเจน และไม่ทราบว่าตนจะได้กลับมารับตำแหน่งตรงนี้อีกหรือไม่ ขณะที่โครงการดังกล่าวเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย จะกลับมาสานต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ มองว่าโครงการดังกล่าวเป็นนโยบายของพรรค ต้องรอฟังมติจากทางพรรคอีกครั้ง
“เราไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลรูปแบบใด พรรคใด ไม่สามารถตอบได้ และต้องมีขั้นตอนของทางพรรคการเมืองว่าจะนำนโยบายใดไปหารือ ในการประชุมกับพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเกิดขึ้น หากรัฐบาลมีเพื่อไทยร่วมด้วย แต่หากไม่มีก็จบ ส่วนกระบวนการฟอร์มรัฐบาลใหม่ขึ้นมา มองว่าไม่นาน เนื่องจากสภาต้องมีการบรรจุระเบียบวาระ คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ต้องมีการเลือกนายกฯ คนใหม่”
ส่วนมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจนั้น ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งตอนนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ตัวเลขมีปัญหาอยู่ เมื่อประกอบกับเรื่องการเมืองที่ไม่มีความแน่นอน ก็อาจจะทำให้การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจชะลอตัวในระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเมืองยังไม่ถึงทางตัน เมื่อมีความชัดเจนขึ้นมาแล้ว สถานการณ์จะคลี่คลาย และกลับเข้ามาสู่ภาวะเศรษฐกิจ