MASTER โกยกำไร Q2 โตแตะ 87 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังสดใสรับ “ไฮซีซั่น”
MASTER รายงานกำไรไตรมาส 2/67 เติบโต 7% แตะ 87 ล้านบาท หลังรับรู้รายได้การศัลยกรรมและจำนวนแพทย์เพิ่ม หนุนให้งวด 6 เดือนแรกกำไรโต 26% มั่นใจครึ่งปีหลังโตแกร่งรับไฮซีซัน
นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย เปิดเผยว่า MASTER รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 87.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.40% เมื่อเทียบปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 81.5 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 193.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.60% เมื่อเทียบปีก่อนที่มีกำไร 153.00 ล้านบาท
ขณะที่อัตรากำไรสุทธิงวด 6 เดือน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 จาก 17.10% เป็น 19.80% มีสาเหตุมาจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ประกอบกับ รับรู้รายได้จากส่วนแบ่งของเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นและการบริหารค่าใช้จ่ายทางการขายที่ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้น
สำหรับไตรมาส 2/2567 นี้ MASTER มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 510.2 ล้านบาท เติบโต 11.1% เมื่อเทียบปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 459.1 ล้านบาท ส่งผลให้งวด 6 เดือนปีนี้ MASTER มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 978.2 ล้านบาท เติบโต 9.3% เมื่อเทียบปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 894.9 ล้านบาท และแนวโน้มการเติบโตจะต่อเนื่องมายังช่วงครึ่งปีหลังนี้
“การเติบโตของรายได้ในไตรมาส 2/2567 นี้ มาจากรายได้จากการศัลยกรรมที่เพิ่มขึ้น 14.7% จากปี 2566 ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นในหัตถการ ศัลยกรรมยกคิ้ว สุขภาพชาย และศัลกรรมหน้า เนื่องจากบริษัทฯ เพิ่มจำนวนแพทย์ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามารับบริการเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางสาวลภัสรดา กล่าว
โดย MASTER มีกำไรขั้นต้นจากการประกอบกิจการโรงพยาบาล เพิ่มขึ้น 14.10% จากปี 2566 สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 55.50% ในงวด 2566 เป็น 57.00% ในงวด 2567
ส่วนทิศทางธุรกิจของ MASTER ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีมุมมองเชิงบวกและคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจจะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน โดยเฉพาะไตรมาส 3/2567 จะมีอัตราการเติบโตมากขึ้น และปกติจะเติบโตสูงสุดของปี ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากอุตสาหกรรมความงามโดยรวม ในประเทศเติบโต 8-10% ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังโดยปกติ คนจะเริ่มจับจ่ายใช้สอยและการใช้จ่ายจะสูงกว่าครึ่งปีแรก สอดคล้องกับการที่บริษัทได้ขยายฐานการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์