BLC โกยรายได้ Q2 แตะ 370 ล้านบาท โต 13% เคาะจ่ายปันผล 0.06 บ.

BLC กวาดรายได้ไตรมาส 2/67 เติบโต 13% แตะ 370 ล้านบาท แย้มครึ่งปีหลังสดใส ออกผลิตภัณฑ์ยาใหม่ ดีมานด์รอบปีงบโรงพยาบาลหนุน ฟากบอร์ดเคาะปันผล 0.06 บาท ขึ้น XD วันที่ 27 ส.ค. กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 13 ก.ย.67


ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เมษายน – มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 370.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 36.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันประเภทยาสามัญและยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ การสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างครอบคลุมทั้งโมเดิร์นเทรด อีคอมเมิร์ซ และออนไลน์ ส่งให้ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2567 (มกราคม – มิถุนายน) มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 735.5 ล้านบาท เติบโต 10.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 78.0 ล้านบาท เติบโต 22.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2567 ในอัตรา 0.06 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 สิงหาคม 2567 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุมและรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 28 สิงหาคม 2567 โดยจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 กันยายน 2567 นี้

อีกทั้ง บริษัทฯ ประเมินผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มเติบโต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันเพื่อทดแทนยาที่หมดในช่วงปีงบประมาณใหม่ของโรงพยาบาล และปัจจัยด้านฤดูกาลในช่วงครึ่งปีหลังของประเทศไทยที่เป็นฤดูฝนและเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้ความต้องการยาสำหรับโรคติดต่อไม่เรื้อรังเพิ่มขึ้น อาทิ ยากลุ่มฆ่าเชื้อ แก้ไอ แก้หวัด จะเน้นยาครีม สเตียรอย ฆ่าเชื้อรา และกลุ่มยารักษาอาการผิวแห้งจากอากาศหนาวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นจากมาตรการฟรีวีซ่า คาดว่าจะทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมียอดขายที่เติบโตขึ้น

ภก.สุวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า สำหรับแผนงานครึ่งปีหลัง 2567 บริษัทฯ วางแผนจัดกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) ภายใต้พอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ โดยมุ่งสื่อสารการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มสินค้า รวมทั้ง สร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์ผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย ดังนี้

1.จำหน่ายสินค้าเดิมในช่องทางเดิม โดยขยายฐานลูกค้าในช่องทางโรงพยาบาล และร้านขายยา โดยมุ่งเน้นไปยังกลุ่มโรงพยาบาลและร้านขายยาที่ไม่เคยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มาก่อน

2.จำหน่ายสินค้าเดิมในช่องทางใหม่ ขยายไปสู่ช่องทาง Modern trade และ ช่องทาง E-Commerce มากยิ่งขึ้น

3.จำหน่ายสินค้าใหม่ในช่องทางเดิม มุ่งวิจัย และพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อวางจำหน่ายในช่องทางที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและมีเครือข่ายที่ครอบคลุม

4.วางจำหน่ายสินค้าใหม่ในช่องทางใหม่ โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่จากการวิจัยและพัฒนาของศูนย์วิจัย BLC Research Center ขยายไปสู่ช่องทางใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ เตรียมวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Calza–D ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกระดูกและข้อ

BLC มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เติบโตสูง ตอบรับกระแสสุขภาพที่มาแรงในปัจจุบัน เราจะสื่อสารการตลาดในทุกช่องทางเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งตลาดต่างประเทศมีการเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ปี 2567 ที่เติบโตกว่า 19.0% เรามองเห็นโอกาสและเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่เราวางไว้” ภก.สุวิทย์ กล่าว

Back to top button