TAN รายได้ครึ่งปีแรก 845 ล้านบาท ลุยเปิด 10 สาขาใหม่-ขยายแบรนด์ “HARNN” ในจีน

TAN เปิดรายได้งวด 6 เดือนเติบโต 27% แตะ 845 ล้านบาท หลังรับรู้รายได้สาขาเดิมและธุรกิจใหม่หนุน กางแผนครึ่งหลังปี 67 เปิดสาขาใหม่ 10 แห่ง พร้อมขยายแบรนด์ “HARNN” ในจีน มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโต 20%


นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ลักซ์ชัวรีระดับโลก เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2567 (มกราคม – มิถุนายน) เทียบกับครึ่งแรกปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 845.10 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 27.40% การเพิ่มขึ้นโดยรวมมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสาขาเดิม (SSSG) การแนะนำสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษและการเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ ซึ่งถือเป็นฐานสำคัญในการกระจายการพึ่งพิงรายได้ของแบรนด์หลักของบริษัทฯ ในไตรมาสต่อๆ ไป

ขณะที่ มีผลกำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ 79.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากการควบคุมส่วนลดที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขาย การทำการตลาด และการเพิ่มทรัพยากรมนุษย์ที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายการเติบโตของผลการดำเนินงานปี 2567 ที่ 20% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากผลการตอบรับของแบรนด์ใหม่ในพอร์โฟลิโอ อาทิ GANNI, Gordon Ramsay Restaurants, United Arrows เป็นต้น การรับรู้รายได้ของแบรนด์ HARNN ในการขยายไปสู่ประเทศจีน และการเปิดตัวคอลเลคชันใหม่ของแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ รวมถึงการเร่งตัวขึ้นของการบริโภคและภาคการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของธุรกิจตามปัจจัยทางฤดูกาล รวมทั้งมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

นายธนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า สำหรับแผนงานครึ่งปีหลัง 2567 กลุ่มบริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างการเติบโตผ่าน 3 กลยุทธ์หลักในการดำเนินงาน  คือ 1.สื่อสารการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและคำนึงถึงประสบการณ์การใช้สินค้าและบริการที่ลูกค้าจะได้รับ 2.การควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีอัตราส่วนคงที่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรให้มากขึ้นกว่าเดิม 3.ขยายสาขาแบรนด์ที่มีศักยภาพเติบโต ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังรวม 10 แห่ง โดยกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เตรียมเปิดร้าน Pandora สาขาสุราษฎ์ธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าของภาคใต้ตอนบน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้มีกำลังซื้อสูงในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดใกล้เคียง สำหรับกลุ่มธุรกิจ Fashion เตรียมเปิด GANNI และ Marimekko ที่ Siam Discovery ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญใจกลางเมือง

นอกจากนี้ ยังขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่ม Young Generation ที่มีกำลังซื้อมากยิ่งขึ้น และกลุ่มธุรกิจ Food & Beverage เตรียมเปิด Gordon Ramsay Bread Street Kitchen & Bar สาขา 2 ที่ ICONSIAM ซึ่งรองรับได้มากถึง 180 คน ครอบคลุมพื้นที่ 600 ตารางเมตร ภายในออกแบบให้มีเคาน์เตอร์บาร์เต็มรูปแบบ มีบริการห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวและโซน Outdoor ท่ามกลางวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดประสบการณ์การรับประทานอาหาร All Day Dining ระดับพรีเมียม โดยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ A, กลุ่มครอบครัว และกลุ่มลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก ขณะที่ Gordon Ramsay Bread Street Kitchen & Bar สาขาแรก ณ EMSPHERE ยังคงได้รับผลตอบรับดีต่อเนื่อง

ขณะที่ ในกลุ่มธุรกิจ Beauty & Wellness กลุ่มบริษัทฯ จัดตั้งบริษัทย่อย HARNN Greater China เพื่อขยายธุรกิจในประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน โดยเตรียมเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้า Hangzhou Hubin Yintai In77 ณ เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ภายในเดือนพฤศจิกายน พร้อมขยายจุดขาย 2,000 แห่งทั่วประเทศจีน และแฟรนไชส์สปา 50 แห่งภายใน 3 ปี

เรายังคงต้องให้ความสำคัญกับการมองภาพระยะยาว ซึ่งจะทำให้ TAN เดินหน้าสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่การเป็นกลุ่มบริษัทไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับภูมิภาค ด้วยการสร้างฐานธุรกิจให้มีทั้งความกว้างและลึก ไม่ว่าจะเป็นการขยายฐานสาขากิจการเดิม หรือเพิ่มสัดส่วนธุรกิจจากกิจการใหม่ที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีมากในอนาคต ดังนั้นการมีค่าใช้จ่ายในการขยายงานและการอยู่ในช่วงเริ่มต้นใหม่ของรอบการลงทุนจึงเป็นสิ่งจำเป็น เราเชื่อว่าความต่อเนื่องระยะยาวของการสร้างฐานรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้กำไรของบริษัทฯยกตัวสูงขึ้นมากในช่วงเวลาถัดไป และเรายังคงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานทั้งปีจะเติบโต 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายธนพงษ์ กล่าว

Back to top button