BAM ส่งซิกครึ่งปีหลังเด่น! ตั้งเป้าปี 67 ยอดเก็บหนี้ 2 หมื่นล้านบาท
BAM ส่งซิกครึ่งหลังโตต่อ ตั้งเป้าปีนี้ยอดเรียกเก็บหนี้เข้าเป้า 2 หมื่นล้านบาท เร่งยอดขาย NPA บ้านมือสองหนุน พ่วงนำแพลตฟอร์ม “BAM Choice” เจาะกลุ่มลูกค้าเลือกซื้อทรัพย์ NPA-ปรับโครงสร้างหนี้ด้วยตนเอง หวังดันยอดตามแผน ฟาก “ARI-AMC” จ่อรับซื้อ-โอน NPL ธนาคารออมสินเข้าบริหารเฟสแรกไตรมาส 3/67
นางสาววนัฌชา ศรีโพธิ์ทองนาค นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAMเปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 15 ส.ค.67 ว่า ไตรมาส 2/2567 บริษัทฯมีกำไรสุทธิจำนวน 456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 880 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลเรียกเก็บรวม 7,493 ล้านบาท รวมถึงมาจากส่วนงานบริหารหนี้ NPL จำนวน 4,142 ล้านบาท และงานบริหาร NPA จำนวน 3,351 ล้านบาท
โดยในส่วนการลงทุนบริษัทซื้อหนี้ NPL ในครึ่งปีแรกมีภาระหนี้รวมจำนวน 20,365 ล้านบาท เนื่องจากสถาบันการเงินยังคงนำ NPL ออกมาขายอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคาซื้อขายมีแนวโน้มลดลงโดยปัจจุบันซื้อขายคิดเป็นร้อยละ 35.3 ของราคาประเมินในปี 2566 คิดเป็นร้อยละ 43.0 ทำให้ AMC บางส่วนชะลอการลงทุนจากภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงส่งผลต่อราคาซื้อขาย NPL ในตลาดมีแนวโน้มลดลงและทำให้ธนาคารยกเลิกการขายหนี้บางส่วนออกมา เนื่องจากไม่ได้ราคาที่ต้องการ
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงมุ่งเน้นนโยบาย Selective Investment เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และมีแผนการบริหารงานสภาพคล่องอย่างดีเยี่ยม โดยในปี 2567 บริษัทฯได้ออกหุ้นกู้แล้ว 2 ครั้งเป็นเงินรวม 7,240 ล้านบาท ซึ่งได้รับการการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่และสะท้อนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ในเรื่องของการชำระคืนหุ้นกู้ทางบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี อีกทั้งสามารถทำผลเรียกเก็บหนี้ และมีรายได้จากการบริหารงานเข้ามาตามแผน และในปีนี้บริษัทกำหนดที่จะไถ่ถอนหุ้นกู้จำนวน 6 ชุด ซึ่งปัจจุบันคืนไปแล้ว 5 ชุด รวม 11,300 ล้านบาท เพราะฉะนั้นตรงนี้ไม่ได้มีประเด็นที่จะทำให้นักลงทุนน่าห่วงเรื่องการชำระคืนหุ้นกู้แต่อย่างใด
ส่วนแนวโน้มปี 2567 บริษัทคงเป้าผลเรียกเก็บไว้ที่ 20,000 ล้านบาท ถึงแม้ว่าผลเรียกเก็บในครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ 7,493 ล้านบาท และบริษัทมองว่าในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปี 2567 เป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจบริษัท ดังนั้นมั่นใจจะทำได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยจะเน้นกลยุทธ์เร่งทำผลเรียกเก็บในส่วน NPA ให้มากขึ้น เนื่องจากมองว่าบ้านมือสองลูกค้ายังตอบรับดีจากกลยุทธ์ราคาพิเศษ และทำเลที่ดี และพยายามจะโฟกัสในส่วนของนักลงทุนกลุ่มเพื่อที่จะเร่งยอดขาย NPA ให้เป็นไปตามเป้า
ด้านนายณสุ จันทร์สม Chief Business Development BAM กล่าวว่า ด้านความคืบหน้าการจัดตั้ง JV บริษัทบริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด (บบส.อารีย์) หรือ ARI-AMC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทฯและธนาคารออมสิน มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 50:50 และมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 25 ล้านบาท ซึ่งได้จัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยในเดือน พ.ค.67 ที่ผ่านมา
โดย “ARI-AMC” คาดจะเริ่มรับซื้อโอนหนี้ด้อยคุณภาพทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกันของธนาคารออมสินเข้ามาบริหารจัดการได้ในไตรมาส 3/67 โดยขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างรอได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์จากธนาคารแห่งประเทศไทย
นอกจากแผนการเติบโตจาก JV บริษัทยังมุ่งและให้ความสำคัญที่จะนำ “ดิจิตอลทรานฟอร์เมชั่น” หรือพยายามที่จะใช้เทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า โดยได้เปิดตัว “BAM Choice” AMC Mobile Application แบบครบวงจร ซึ่งเปิดให้บริการ “เฟสแรก” โดยให้ลูกค้าเข้ามาลงทะเบียนสมัครสมาชิกเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร โปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์สำหรับลูกหนี้และลูกค้า รวมถึงสามารถตรวจสอบยอดภาระหนี้คงเหลือในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิดให้บริการเฟส 2 เพิ่มเติมโดยจะเน้นให้บริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ (NPL) และลูกค้าซื้อทรัพย์ (NPA) ให้เข้ามาทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองโดยมีช่องทางในการติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ และมีโปรแกรมคำนวณสินเชื่อ และจ่ายออนไลน์ โดยคาดว่าจะเปิดบริการได้เต็มรูปแบบภายในไตรมาส 3/67
สรุปข้อมูสำคัญของข้อมูลจดทะเบียน (Company Snapshot)