EKH โกยกำไร 6 เดือนแรก 144 ล้านบาท แจกปันผล 0.28 บ. ขึ้น XD 29 ส.ค.นี้

EKH รายงานผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก กำไรแตะ 144 ล้านบาท โต 20% พร้อมจ่ายปันผล 0.28 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD 29 ส.ค.67 และกำหนดจ่าย 13 ก.ย.67 เดินหน้าขยายลงทุนธุรกิจด้านสุขภาพ มั่นใจผลงานปีนี้โตเกิน 10%


นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการ บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 144.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.92 ล้านบาท หรือ 19.86 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 120.44 ล้านบาท  ขณะที่รายได้รวม (ไม่รวม KLINIQ) อยู่ที่  644.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34 ล้านบาท หรือ 5.57 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 610.62 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นได้รับปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนผู้เข้ารับบริการทั้งจากผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเท่ากับ 629.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.50 % เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่  559.75 ล้านบาท รวมถึงศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) และโรงพยาบาลคูน ยังช่วยสนับสนุนให้รายได้ และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติให้จัดตั้ง บริษัท เอกชัยคาร์ดิโอวาสคูลาร์ เซ็นเตอร์  จำกัด หรือ EKC  เพื่อเปิดดำเนินธุรกิจศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด ที่อาคาร A โรงพยาบาลเอกชัย โดยบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วน 50.50 %  ซึ่งจะเปิดดำเนินธุรกิจได้ในไตรมาส1/2568

ทั้งนี้ การที่ผลการดำเนินงานที่ยังอยู่ในทิศทางที่ดี คณะกรรมการบริษัท จึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลระหว่างกาล สำหรับงวด 6 เดือนแรกปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567) ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.28 บาท  รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 218 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 13 กันยายน 2567 โดยไม่ได้รับสิทธิปันผล XD วันที่ 29 ส.ค.2567

สำหรับ แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังคาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากได้รับแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) เข้ารับบริการรักษาพยาบาลศูนย์บริการทางการแพทย์ต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้ง ยังได้รับปัจจัยหนุนจากศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) และโรงพยาบาลคูนยังมีการเติบโตที่ดี และได้รับความสนใจจากคนไข้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยสนับสนุนทำให้รายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เทียบกับปีที่ผ่านมา

Back to top button