CENTEL กางแผนปี 67 ขยายโรงแรมใหม่ 2 แห่งในมัลดีฟส์-แย้ม “ธุรกิจอาหาร” ทุกสาขาโต 6%  

CENTEL เปิดงบไตรมาส 2/67 กำไรแตะ 168 ล้านบาท โต 39% รับยอดจองห้องพัก-รายได้ธุรกิจอาหารพุ่ง กางแผนธุรกิจในปี 67 ขยายโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 2 แห่งในมัลดีฟส์ พร้อมแย้มธุรกิจอาหารทุกสาขาโต 4-6%   


นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 16 ส.ค. 2567 ว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท

ขณะที่มีรายได้รวม 5,847 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,250 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากการธุรกิจโรงแรม 2,454 ล้านบาท และรายได้จากการขายอาหาร 3,393 ล้านบาท

สำหรับรายได้ในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่เพิ่มขึ้นมาจากการเติบโตของโรงแรมเดิมในประเทศไทยดูไบ และมัลดีฟส์รวมถึงโรงแรมเปิดใหม่ที่โอซากะ ประเทศญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในช่วงไฮซีซั่นที่มีราคาห้องพักเฉลี่ยสูงกว่าโรงแรมในไทย ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีโรงแรมภายใต้การบริหารงานทั้งสิ้น 91 โรงแรมรวม 20,466 ห้อง โดยไตรมาส 2 ปี 2567 ธุรกิจโรงแรมมีกำไรสุทธิ 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 343% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 14 ล้านบาท ขณะที่ รายได้ในส่วนของธุรกิจอาหาร มาจากการเติบโตของแบรนด์หลัก คือ เค เอฟ ซี, มิสเตอร์ โดนัท, อานตี้แอนส์ และโอโตยะ

นายกันย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนธุรกิจในปี 2567 ในส่วนของธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ มีการลงทุนเพิ่มเพื่อขยายธุรกิจ โดยจะเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 2 แห่งที่มัลดีฟส์ ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์และ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์และจะมีการปรับปรุงใหญ่โรงแรมในไทยอีก 2 แห่ง คือ โรงแรมเซ็นทารา กะรน ภูเก็ต และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา

โดยคาดการณ์อัตราการเข้าพักเฉลี่ย รวมโรงแรมร่วมทุนที่ 70%-73% และรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 4,000-4,300 บาทต่อห้องต่อคืนและคาดว่าจะมีรายได้รวม JV ที่ 12,500 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจอาหาร บริษัทฯ คาดการณ์อัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ 1%-3% เมื่อเทียบปีก่อน และอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขาอยู่ที่ 4%-6% เมื่อเทียบปีก่อนโดยคาดว่ารายได้จากธุรกิจอาหารในปีนี้รวม JV จะอยู่ที่ 16,100 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เดินหน้าหาช่องทางการขายใหม่ๆ และจะมีการเข้าซื้อหรือร่วมทุนกับแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติมรวมถึงบริษัทฯ จะให้ความสำคัญในการบริหารจัดการต้นทุนโดยมีแผนจะปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรได้ตามเป้าเพื่อรักษาอัตราทำกำไรของบริษัทฯ ทั้งนี้ เมื่อรวมธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร บริษัทฯ คาดการณ์ว่าปี 2567 จะมีรายได้รวม JV อยู่ที่ 28,600 ล้านบาท

“ส่วนแผนกลยุทธ์ช่วง 5 ปี บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าต้องการบรรลุยอดขายในส่วนของธุรกิจอาหารแบบรวม JV ที่ 25,000-26,000 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ ตั้งเป้ามีรายได้รวม JV อยู่ที่21,000-22,000 ล้านบาทภายในปี 2571” นายกันย์ กล่าวทิ้งท้าย

Company Snapshot

Back to top button