โบรกฯชี้ SET ฟื้นตัวเร็ว หลังได้นายกฯใหม่ เน้นลงทุนหุ้นรับ “วายุภักษ์ 1-Thai ESG”  

มติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่พิจารณา วาระการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ภายในเวลาเพียง 2 วัน หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำพิพากษาให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่ง ถือเป็นเรื่องที่ดี สำหรับ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ไม่ต้องเจอกับปัญหาสูญญากาศ ทางการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงปัจจัยแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ทำให้มีความเสี่ยง ต่อความเชื่อมั่น ของนักลงทุน

สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์ด้านการลงทุน ที่มองว่า เป็นเรื่องที่ดี ต่อตลาดทุนไทย อย่างบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS วิเคราะห์ว่า ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ได้รับเสียงโหวตเกินครึ่ง หรือเกิน 248 เสียงและได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 31 มองว่า ตลาดคลายกังวล งบประมาณปี 2568 ล่าช้า รวมถึงนโยบายหลักต่างๆ ที่รัฐบาลชุดก่อนวางไว้เดินหน้าได้ต่อ หลังจากนี้ต้องรอการตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดใหม่

ส่วนนโยบาย Digital Wallet ที่มีกระแสข่าวความไม่แน่นอนนั้น KSS มองว่า หากต้องยกเลิกก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่แย่เกินไป เพราะอาจจะเห็นภาพการปรับลดดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น จากฝ่ายนโยบสยดารเงิน และรัฐบาลใหม่ จะจัดสรรงบประมาณมากระตุ้นการบริโภคในรูปแบบอื่น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะสั้น ผสานมาตรการระยะยาว

ทั้งนี้ KSS ประเมินมองกรอบ SET ใน 1 เดือน จะค่อยๆ ฟื้นตัวสู่กรอบ 1,290-1,360 จุด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุน เลือกลงทุนหุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์เชื่อว่าเดินหน้าต่อได้ อาทิ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT

นอกจากนี้แนะนำกลุ่ม Defensive ที่มีปัจจัยขับเคลื่อน ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE,บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH พร้อมทั้งแนะนำกลุ่มโรงพยาบาล ได้แก่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS นอกจากนี้แนะนำกลุ่มโรงไฟฟ้าได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT

ด้านบล.บัวหลวง วิเคราะห์ว่า หลังจากมีการประชุมสภาฯในการเลือกคุณแพทองธาร  เป็นนายกฯคนที่ 31 การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ออกมา 2 แนวทาง โดยแนวทางแรกหากเอาตามเดิมคือ เปลี่ยนแค่นายกฯ หรือปรับบางตำแหน่งที่เปลี่ยนตามนายก ทุกอย่างเดินต่อ นโยบายไม่สะดุด และมองว่าตลาดพร้อมรีบาวน์เร็ว

ส่วนแนวทางที่สองหากมีสัญญาณการเจรจา ครม. และนโยบายสำคัญใหม่ มองว่าตลาดจะรีบาวน์ได้ไม่เต็มที่ แต่คาดว่ารอบนี้อาจจะเจรจาไม่นานเหมือนก่อนๆ ดังนั้นไม่ว่าแนวทางจะออกมา 1 หรือ 2 ยังเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้น

กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นกลุ่มวายุภักษ์บวก Thai ESG หุ้นปันผลดี และหุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น CPALL,SCB, KTB,PTT, AOT เป็นต้น และแนะนำเก็งกำไรหุ้นพื้นฐานกำไรแกร่ง และมีสัญญาณเติบในครึ่งหลังปี 2567 อาทิ AAV, PLANB, CK, DOHOME เป็นต้น