TOP แย้มครึ่งปีหลังสดใส รับดีมานด์เพิ่ม-ราคาน้ำมันพุ่ง

TOP มองภาพรวมครึ่งหลังปี 67 สดใสกว่าครึ่งปีแรก รับปัจจัยหนุนจากฤดูหนาว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมาสูงในช่วงไตรมาส 3 พร้อมเดินหน้าขยายตลาดไปเวียดนาม อินเดีย และอินโดนีเซีย


นางสาวทอแสง ไชยประวัติ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการเงิน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 16 ส.ค.67 ว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 5,546.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 396% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 1,117.09 ล้านบาท

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 11,409.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 5,671.22 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการบริหารต้นทุนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดการณ์ว่าจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรก เนื่องจากธุรกิจการกลั่นในไตรมาส 3/67 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยปัจจุบันค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวดีขึ้นมา ตามความต้องการของฤดูกาล จากไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 3.5 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ช่วงไตรมาส 4 เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หรือฤดูหนาว มีความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้ภาพรวมตลาดปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ด้านราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 3/67 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับ 85 เหรียญ/บาร์เรล จากไตรมาส 2/67 ที่ 81 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องจับตาในไตรมาส 3/67 ได้แก่สถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางจะลุกลามหรือไม่ ซึ่งจะกระทบอุปทานน้ำมันดิบ ปัจจัยพายุเฮอริเคนอาจจะรุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งจะกระทบโรงกลั่น และทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลก หลังเฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มองว่าจะกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้นในครึ่งปีหลัง

นอกจากนี้ มุ่งเน้นขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ขยายตลาดไปเวียดนาม อินเดีย และอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันในเวียดนามขยายธุรกิจถังเก็บสารทำละลายและเคมีภัณฑ์ เพิ่มความจุของถัง คาดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/67 ซึ่งจะทำให้มีผลการดำเนินของท็อป โซลเว้นท์ ดีขึ้นในไตรมาส 4/67 และดีต่อเนื่องในปี 68 โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในเวียดนามอีก 20-30% ในไตรมาส 4/67

ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี ตลาดอะโรเมติกส์ ครึ่งปีหลังแนวโน้มดีขึ้น มี room ให้เติบโต กำลังการผลิตเข้ามาไม่มาก แต่ถ้าเป็นโอเลฟินส์ ยังคงมีความท้าทาย เพราะมีแรงกดดันจากกำลังการผลิตที่เข้ามาค่อนข้างมากจากของจีนและอินเดีย

นอกจากนี้ บริษัทยังขยายพอร์ตลงทุนในธุรกิจใหม่มากขึ้น หาพาร์ทเนอร์เพื่อต่อยอดธุรกิจ ศึกษาธุุรกิจพลังงานใหม่ ได้แก่ ธุรกิจชีวภาพ ไบโอเจ็ท หาโอกาสลงทุนน้ำมันอากาศยานทำจากชีวภาพ ศึกษาพลังงานไฮโดรเจน อยู่ระหว่างศึกษาร่วมกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และศึกษาการดักจับและกักเก็บคาร์บอนขณะที่ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่

อย่างไรก็ตาม บริษัทวางงบลงทุนรวมปีนี้ 702 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็น 557 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใช้ในโครงการพลังงานสะอาดและปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น 146 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 68 ใช้ลงทุนในธุรกิจโอเลฟินส์ ขยายกำลังการผลิต ใช้เงิน 270 ล้านเหรียญสหรัฐ

Company Snapshot

Back to top button