MOSHI ย้ำเป้ารายได้ปี 67 โต 20% ลุยขยายร้านเพิ่ม 33 สาขา-ออกสินค้าใหม่

MOSHI คงเป้าหมายรายได้ปี 2567 เติบโต 20% เตรียมขยายสาขาภายใต้แบรนด์ Moshi Moshi เพิ่มอีก 33 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมยกทัพสินค้าใหม่ ร่วมกับศิลปินที่มีชื่อเสียง และจัดนิทรรศการ Hello Kitty


นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีกลยุทธ์สำคัญในปี 2567 ในการมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความยืดหยุ่น และพร้อมนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมวางแผนที่จะขยายเครือข่ายร้านสาขาต่อเนื่องไปตามการขยายตัวของชุมชน แหล่งท่องเที่ยว และทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์กับพฤติกรรมผู้บริโภคและอำนวยความสะดวกและเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด

โดยบริษัทฯ วางแผนที่จะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่อีกอย่างน้อย 33 สาขาในปี 2567 โดยเป็นสาขาภายใต้แบรนด์ Moshi Moshi ทั้งหมด 33 สาขา ครอบคลุม 60 จังหวัด รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การยกระดับประสบการณ์ลูกค้าผ่านการ Collaboration Projects ร่วมกับศิลปินที่มีชื่อเสียง พร้อมเพิ่มการรับรู้แบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาด การปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุน และการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในห่วงโซ่อุปทานและความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอและความสามารถในการแข่งขันในตลาด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 20% จากปี 2566 ที่มีรายได้ 2,543.26 ล้านบาท โดยการเติบโตของรายได้ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และอัตราการเติบโตของยอดขายจากร้านเดิม ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ จำนวนนักท่องเที่ยว อัตราเงินเฟ้อ การขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ เป็นต้น โดยเตรียมออกสินค้าใหม่มากกว่า 1,000 SKUs/เดือน และยังคงพัฒนาสินค้ากลุ่มลิขสิทธิ์ การ Collaboration Projects ร่วมกับศิลปินที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาด พร้อมคงความเป็นเอกลักษณ์ของ MOSHI และสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ สามารถทำรายได้รวม 640.97 ล้านบาท เติบโต 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 595.94 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 636.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักมาจากกลุ่มค้าปลีก 520.95 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 81.8% กลุ่มค้าส่ง 108.16 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 17.0% และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่น 7.43 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.2% ขณะที่กำไรสุทธิได้ 81.21 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนสินค้านำเข้า

อย่างไรก็ตาม ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาจนสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว และพร้อมสำหรับรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น ผลักดันให้ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,336.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,161.03 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิทำได้ 206.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 170.95 ล้านบาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนมาจากการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง การประหยัดต่อขนาดจากการขยายสาขา และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น

นายสง่า กล่าวเพิ่มว่า สำหรับเหตุการณ์สำคัญในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง โดยได้เร่งดำเนินการขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมมุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯ ได้เปิดสาขาใหม่ภายใต้แบรนด์ Moshi จำนวนทั้งสิ้น 11 สาขา ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาค้าปลีกและค้าส่งที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 154 สาขา (ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2567) แบ่งเป็น ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 148 สาขา, ร้านค้าส่งแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 2 สาขา, ร้าน Garlic 3 สาขา, ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 3,000 รายการ (SKUs) ในไตรมาส 2/2567 เพื่อเพิ่มความหลากหลายทั้งในด้านรูปแบบและการออกแบบ จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าและกระตุ้นยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดิม อาทิ ผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาลอย่างเครื่องเขียน

สำหรับช่วงเปิดภาคเรียน และผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะ เช่น สินค้าอาร์ตทอยส์และผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อตอบสนองความสนใจของกลุ่มลูกค้าในวงการ K-Pop อาทิ การสนับสนุนการจัดคอนเสิร์ต ตลอดจนการจัดโปรโมชันส่วนลดเป็นประจำทุกเดือน

ขณะเดียวกัน MOSHI ได้ร่วมกับพันธมิตร ในการจัดนิทรรศการ “Hello Kitty Exhibition : Celebration of Friendship” เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ตัวการ์ตูน Hello Kitty และอีกหนึ่งนิทรรศการ “Sanrio Characters : FUNtastic Exhibition” ที่รวมความน่ารักของเหล่าตัวการ์ตูนซานริโอ เช่น คุโรมิ มายเมโลดี้ และฮาปิดันบุย โดยเป็นรูปแบบ Immersive Exhibition ครั้งแรกในไทย โดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม – 10 พฤศจิกายน 2567 ณ HOUSE OF ILLUMINATION, CENTRAL WORLD PULSE ชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามสามารถดึงดูดกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบในคาแรกเตอร์การ์ตูนซานริโอ รวมถึงกลุ่ม Gen Z และ Millennials รวมถึงกลุ่มครอบครัว เป็นต้น

นอกจากนี้ MOSHI ยังได้ต่อยอดความสำเร็จ โดยได้ผลิตสินค้างานลิขสิทธิ์ของซานริโอ ผ่านคอลเลกชันสุดพิเศษและ Exclusive ลาย Hello Kitty ครบรอบ 50 ปี และลายสุดพิเศษของกลุ่มตัวละครซานริโอ อาทิ กระเป๋า พวงกุญแจ สติกเกอร์ พร้อมทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายให้ผู้ร่วมชมเข้ามาร่วมสนุกภายในงาน สามารถซื้อตั๋วเข้าร่วมงานได้แล้ววันนี้ที่ www.icvticket.com หรือซื้อหน้างาน คาดว่าจะช่วยหนุนรายได้เพิ่มในช่วงครึ่งปีหลัง 2567

Back to top button