โบรกมอง SET ครึ่งปีหลัง 1,330-1,380 จุด รับ GDP ไทยโต-ปลดล็อกการเมือง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET ครึ่งปีหลังอยู่ที่ระดับ ,330-1,380 จุด ขานรับ GDP เศรษฐกิจไทยเติบโตดี บริโภค-ส่งออกหนุน ประกอบกับเบิกจ่ายงบประมาณที่เร่งตัวขึ้น รวมถึงคลายกังวลการเมืองไม่แน่นอน
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDC) รายงานว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2567 เติบโต 0.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 23% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนใกล้เคียงกับที่คาดไว้ที่เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในภาพรวมเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 4/2566 ตามคาดการณ์และจะเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในทุกไตรมาสในปีนี้
โดยปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจในไตรมาส 2/2567 เติบโตดียังอยู่ที่การบริโภคในภาคเอกชนซึ่งโตต่อเนื่อง 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดีตัวเลขดังกล่าวชะลอตัวลงจากไตรมาลก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สอดดล้องกับความมั่นใจของผู้บริโภคซึ่งลดลงจาก 63 ในไตรมาส 1/2567 เป็น 58.9 ในไตรมาส 2/2567 โดยกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูงประกอบด้วยอาหาร ร้านอาหารและโรงแรม สาธารณูปโภคและบริการขนส่ง การใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออกสินค้าพลิกมาโตเป็นบวกที่ 0.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 1.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่เร่งตัวขึ้นและเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้การส่งออกบริการยังฟื้นตัวดีด้วยตัวเลขการเติบโต 19.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 8.13 ล้าน เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในไตรมาสนี้
สำหรับการลงทุนภาครัฐเป็นอีกเครื่องยนต์ที่มีการฟื้นตัวดีจากลดลง 27.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในไตรมาส 1/2567 เป็น 4.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน พร้อม Momentum เชิงบวกจากไตรมาสก่อนหน้าจากการอนุมัติงบประมาณรัฐบาลปี 2567 ซึ่งเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2567
อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการลงทุนภาครัฐซึ่งลดลงแรงถึง 6.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนในไตรมาส 2/2567 นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ไตรมาสจากการชะลอตัวของกลุ่มยานยนต์และอสังพาริมทรัพย์ของไทย
โดยแนะนำให้นักลงทุนจับตาดูตัวเลขดังกล่าวในไตรมาสถัดไป ถ้ายังเป็นลบตัวเลขดังกล่าวอาจเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวโดยเฉพาะในภาคการผลิต
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ทั้งครึ่งปีก่อน และเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดย NESDC ได้ปรับลดช่วงประมาณการตัวเลขการเติบโตของ GDP ในปี 2567 ให้แคบลงจาก 2-3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 2.3-2.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเมื่อไม่นานมานี้ความไม่แน่นอนทางการเมือง ได้รับการแก้ไขหลังนางแพทองธาร ชั้นวัตร ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เพียงสองวันหลังจาก นายเศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่ง ครม. ใหม่น่าจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งและเริ่มงานได้ในเร็วๆ นี้ ในขณะที่ยังเป็นไปได้ว่ารัฐสภาจะสามารถอนุมติงบประมาณรัฐบาลปี 2568 ได้ภายในเดือน ก.ย. 2567 ซึ่งเห็นว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปซื้อขายที่ระดับเดียวกันกับในปลายเดือนพฤษภาคมที่ระดับ 1,330-1,380 จุด เมื่อประเด็นปัญหาทางการเมืองที่ค้างคาอยู่หมดไป