8 หุ้นเฝ้าระวัง! โบรกหั่นเป้า-กำไร เซ่นงบครึ่งปีหลังหดตัว

คัด 8 หุ้นน่าห่วงช่วงครึ่งปีหลังนี้ หลังโบรกฯ ปรับประมาณกำไรทั้งปี รวมถึงหั่นราคาเป้าหมายลง เนื่องจากมองว่าผลการดำเนินงานยังไม่สดใส


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวมรวมข้อมูล เกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย (บจ.) ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานในงวดครึ่งหลังของปีไม่สดใส เป็นเหตุให้ทางนักวิเคราะห์ปรับราคาเป้าหมาย รวมถึงปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี 67 ลง โดยอ้างอิงจากบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS จำนวน 8 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย

1.บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE โดยผู้บริหารคาดการณ์รายได้ไตรมาส 3/67 จะลดลงจากไตรมาส 2/67 และไตรมาส 1/67 ด้วย (ปกติไตรมาส 3 มักเป็นไฮซีซั่น) และคาดการณ์ไตรมาส 4/67 จะอ่อนลงต่อ เพราะเป็นโลว์ซีซั่น ทำให้บริษัทปรับลดเป้าการเติบโตของรายได้จาก 20-25% เป็น 15-20% จากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่โตน้อยกว่าเป้าในตะวันออกกลาง ซึ่งโตดีมากในครึ่งแรกของปีนี้, อินโดนีเซีย มาจากฐานสูง และกำลังซื้อไม่สดใส และเกาหลีใต้เจอการแข่งขันแรงขึ้น ส่วน EU, US, ฟิลิปปินส์ ยังโตดี

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยปรับลดกำไรปี 67 ลง 8% อยู่ที่ 1.30 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 92 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

2.บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE แนวโน้มไตรมาส 3/67 จะอ่อนลงจากไตรมาสก่อน ไม่ได้ไปต่ออย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ เพราะคำสั่งซื้อยังไม่ฟื้น, กำลังการผลิต HDI เต็ม cap, บาทเริ่มแข็ง และทองแดงแพงขึ้น ด้านผู้บริหารให้มุมมองว่ารายได้ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนลงจากไตรมาส 2/67

โดยฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 67 ลง 9% เป็น 2 พันล้านบาท แต่ยังเติบโต 31% จากปีก่อน จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 46 บาท ยังมี upside คงคำแนะนำ “ซื้อ”

3.บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER โดยฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดกำไรปี 67 ลง 15% สะท้อนกำไรไตรมาส 2/67 ที่ตํ่ากว่าคาดการณ์ จากค่าใช้จ่ายสูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมน้อยกว่าคาดการณ์ แต่ไตรมาส 2/67 อาจเป็นจุดตํ่าสุดของปี และคาดการณ์กำไรครึ่งหลังของปีนี้จะเร่งตัวขึ้นด้วยแรงหนุนจากไฮซีซั่นของการทำศัลยกรรม การเริ่มรับรู้รายได้จาก IPD และคาดส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมขยับขึ้นสู่ไตรมาสละ 12-15 ล้านบาทในครึ่งหลังของปี 67 จาก V Square ที่คาดการณ์ว่าจะพลิกมีกำไรเล็กน้อยตั้งแต่ไตรมาส 3/67 เป็นต้นไป

ด้านราคาหุ้นปรับลงแรงสะท้อนกำไรที่ตํ่ากว่าคาดไปแล้ว จึงให้ราคาเป้าหมายใหม่ 52 บาท และยังแนะนำ “ซื้อ”

4.บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR กำไรไตรมาส 2/67 ตามคาดการณ์ที่ 1 พันล้านบาท ลดลง 1% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน โดนฉุดด้วยการเพิ่มขึ้นของ ECLs และ Credit costs แต่ด้วยคุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลงมากกว่าคาดคาดการณ์ แม้ว่าภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังของปี 67 อาจปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ที่อาจปรับตัวลงจาก 1) Credit costs ที่อาจเพิ่มขึ้น 2) ความเป็นไปได้ที่ NPL ratio จะขึ้นไปแตะกรอบนของคาดการณ์

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” โดยจะทบทวนประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายอีกครั้งหลังประชุมนักวิเคราะห์ 9 ส.ค.นี้

5.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ที่ 65 ล้านบาท โต 452% จากไตรมาสก่อน, ลดลง 57% จากปีก่อนหน้า ตํ่ากว่าเคยมองที่ 150-200 ล้านบาท สาเหตุจากมีค่าใช้จ่ายปรับปรุงผิวจราจรรถไฟฟ้ากดดันอัตรากำไรขั้นต้น

โดยปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 67-69 ลง 68%/40%/33% ตามลำดับ สะท้อนการปรับเพิ่มส่วนแบ่งขาดทุนรถไฟฟ้าเหลือง-ชมพู และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ทำให้ปี 67 คาดการณ์กำไรหดตัวเป็น 125 ล้านบาท ลดลง 75% จากปีก่อน และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 8 บาท ยังแนะนำ “ขาย”

6.บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/67 ที่ 46 ล้านบาท ลดลง 31% จากไตรมาสก่อน จากปัจจัยฤดูกาล และลดลง 11% จากปีก่อน ต่ำกว่าคาดการณ์ 11% จากรายได้ค่าบริการและอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาดการณ์ แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/67 จะเติบโตจากไตรมาสก่อน และจากปีก่อน จากไฮซีซั่นของลูกค้าต่างชาติ ซึ่งจากยอดการเข้าการรักษาเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เบื้องต้นมีแนวโน้มปรับลดประมาณการปี 67 ลง 11% ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ใหม่อยู่ที่ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 21 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

7.บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL หลังมีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยต่อทิศทางการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) โดยแนวโน้มเดือน ก.ค. ติดลบมากขึ้นเป็น 6-7% เทียบกับไตรมาส 2/67 ที่ลดลง 2.30% จากภาพกำลังซื้อที่ยังฟื้นช้า ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67-69 ลง 6-7% สะท้อน SSSG ที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ กับมุมมองระมัดระวังต่อยอดขายมากขึ้นจากที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 เติบโตเหลือ 4% จาก 11% จากปีก่อน และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 16 บาท แต่ยังแนะนำ “ซื้อ”

8.บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO แนวโน้มไตรมาส 3/67 จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67-69 โดยคาดการณ์กำไรปี 67-69 ลดลง 26% จากปีก่อน จากการตั้งสำรอง ECL พิเศษในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ก่อนปรับขึ้นเป็น 35% CAGR ในช่วง 68-69 แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 3 บาท อิง P/BV ที่ 0.87 เท่าแนะนำ “ถือ”

Back to top button