AF กางแผนครึ่งปีหลัง 67 เน้นเจาะกลุ่มธุรกิจเทรนด์ขาขึ้น รับดีมานด์ SME ขอสินเชื่อพุ่ง

AF เปิดแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 2567 เน้นเจาะตลาดกลุ่มธุรกิจเทรนด์ขาขึ้น รับดีมานด์ผู้ประกอบการ SME ขอสินเชื่อแฟคตอริ่งเพิ่มอย่างต่อเนื่อง มั่นใจทุกผลิตภัณฑ์การเงินตอบโจทย์ผู้ประกอบการในทุกมิติ


นายอัครวิทย์ สุกใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AF ผู้นำด้านการให้บริการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นแก่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2567  บริษัทฯ มีรายได้รวม 126.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.65% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 120.95 ล้านบาท

ขณะที่กำไรส่วนที่เป็นขอผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 15.11 ล้านบาท โดยรายได้จากผลการดำเนินงานมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากการซื้อสิทธิเรียกร้อง จำนวน 87.29 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 23.18 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืมประเภทอื่นจำนวน 15.61 ล้านบาท มีต้นทุนทางการเงินเท่ากับ 40.14 ล้านบาท และกำไรขั้นต้น 87.41 ล้านบาท

สำหรับสินทรัพย์หมุนเวียน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีจำนวน 2,322.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสัดส่วนลูกหนี้แฟคตอริ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เท่ากับ 1,874.00 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75.1% ของสินทรัพย์รวม

ขณะเดียวกัน มีอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน 1.22 เท่า และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 3.56 เท่า โดยมีวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่เบิกใช้ จำนวน 880 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทฯ มีเงินทุนและแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ มีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม และมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ

“ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานโดยได้เริ่มปฏิบัติการใช้ระบบอนุมัติแฟคตอริ่งออนไลน์ เพื่อรองรับการพัฒนาธุรกิจให้มีขอบเขตกว้างมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการพัฒนาระบบ รับซื้อบิลออนไลน์ (E-Factoring) ซึ่งเป็นการยกระดับการให้บริการ เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบการพัฒนาที่ใช้ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน (ESG) จะช่วยให้สามารถควบคุมการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายอัครวิทย์ กล่าว

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานอย่างระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดยจะเน้นการกระจายความเสี่ยงไปกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโต ประกอบด้วย 1. กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน  2. กลุ่มธุรกิจทางการแพทย์  3. กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และ 4. กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ เนื่องจากมองว่า 4 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวอยู่ในเทรนด์ที่มีแนวโน้มการสร้างมูลค่าเพิ่มสูง และสอดรับกับทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินกลยุทธ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ จากการผิดนัดชำระสินเชื่อ โดยจะมีกระบวนการพิจารณาเครดิต (Underwriting) และติดตาม (Monitoring) คุณภาพสินเชื่อจากการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ทั้งด้านลูกค้าและลูกหนี้การค้า ทั้งก่อนและหลังอนุมัติสินเชื่อ ตลอดจนมีการกำหนดนโยบายเครดิตเพื่อเป็นมาตรฐานในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตกำหนดให้มีการทบทวนเครดิตลูกค้าและลูกหนี้การค้าอย่างน้อยปีละ 1  ครั้ง

รวมทั้งมีการติดตามและปรับปรุงกระบวนการด้านเครดิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการปฏิบัติงาน และเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจแต่ละช่วงเวลา โดยอาศัยเทคโนโลยีและฐานข้อมูลในการบริหารความเสี่ยง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ มีคุณภาพการบริหารสินเชื่ออยู่ในระดับที่ดี และได้มาตรฐานตามที่วางไว้

ขณะเดียวกัน ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยยังส่งผลต่อผลประกอบการ ทำให้บริษัทฯ มีมาตรการในการลดความเสี่ยง โดยจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมและคิดอัตราผลตอบแทนให้สอดคล้องกับความเสี่ยง จากธุรกรรมลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง เพื่อให้บริษัทฯสามารถรักษาส่วนต่าง (Spread) ของดอกเบี้ยได้ตามที่บริษัทฯต้องการและยังสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บได้ ทำให้บริษัทฯ มีความคล่องตัวในการปรับตัวในภาวะ ที่อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวน

 “กลุ่ม SMEs ยังคงมีความต้องการสินเชื่อแฟคตอริ่งอย่างต่อเนื่อง เพราะกว่า 50% ของกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าไปถึงแหล่งสินเชื่อ ทำให้ AF ต้องเร่งสร้างโอกาสวางแผนขยายการรับรู้ในช่องทางต่างๆ รวมทั้งสร้างพันธมิตรเครือข่าย เพื่อเป็นหนึ่งในช่องทางให้กลุ่ม SMEs ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน AF มี 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ครบทุกมิติ ซึ่งประกอบด้วย 1. สินเชื่อแฟคตอริ่ง 2. สินเชื่อระยะสั้นไม่เกิน 180 วัน (Exclusive PN) สำหรับลูกค้าเก่าประวัติดี 3. สินเชื่อเงินกู้ระยะยาว (Long-Term Investment) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต หรือลงทุนในด้านพลังงานทดแทน เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานของผู้ประกอบการ และ 4. สินเชื่อสำหรับ Supply chain ผู้ซื้อรายใหญ่ (AFP : Account Payable Financing Program)  ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกัน ทั้งนี้เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง” นายอัครวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button