โบรกมอง “กลุ่มแบงก์” ยีลด์สูง TTB-SCB ท็อปพิก!

โบรกมองกลุ่มธนาคารจะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งแรกของปี 67 มีมุมมองบวกต่อ TTB-SCB ท็อปพิก!รับ Dividend yield สูงสุด


บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดการณ์เงินปันผลครึ่งแรกของปี 67 และครึ่งหลังของปี 67 โดย ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB มีอัตราผลตอบแทน (Yield) สูงสุด

โดยปกติช่วงเดือน ก.ย. ของทุกปี กลุ่มธนาคารจะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งแรกของปี 67 มีเพียงธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ที่จ่ายเป็นแบบรายปี ไม่มีระหว่างกาล โดยคาดการณ์ว่าครึ่งแรกของปี 67 จะมี TTB ที่มี Dividend yield สูงสุด ขณะที่เงินปันผลงวดครึ่งปีหลังจะมีการจ่ายช่วงเดือน เม.ย. ของทุกปี โดยคาดการณ์ว่าครึ่งหลังของปี 67 จะมี SCB มี Dividend yield สูงสุด

ทั้งนี้ มองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มธนาคาร เพราะก่อนประกาศจ่ายเงินปันผลจะเป็นช่วงที่ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารจะปรับตัว outperform กว่า SET โดยเราประเมินว่าช่วงครึ่งแรกของปี 67 (ประกาศจ่ายเงินปันผลช่วงเดือน ก.ย.67) โดยธนาคารที่จะมี Dividend yield สูงสุดคือ TTB ที่ระดับ 2.8% รองลงมาเป็น TCAP ที่ระดับ 2.4% และ SCB ที่ระดับ 2.35%

ส่วนช่วงครึ่งหลังของปี 67 (ประกาศจ่ายเงินปันผลช่วงเดือน เม.ย.68) ธนาคารที่จะมี Dividend yield สูงสุดคือ SCB ที่ระดับ 6.5% รองลงมาเป็นบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ที่ระดับ 6.2% และ KTB ที่ระดับ 5.4% (โดย KTB มีการจ่ายเงินปันผลเพียงปีละครั้ง)

สำหรับ Dividend yield ปี 67 ธนาคารที่มี Dividend yield สูงสุดคือ SCB ที่ 8.8% รองลงมา เป็น TISCO ที่ 8.3% และบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ที่ 6.9%

ดังนั้น กลุ่มธนาคารเป็น “เท่ากับตลาด” เพราะการเติบโตของกำไรปี 67 จะเติบโตได้ชะลอตัวเหลือ 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากปี 66 อยู่ที่เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ดี ด้าน valuation ยังถูกเทรดที่ระดับเพียง 0.60 เท่า

โดยทางฝ่ายนักวิเคราะห์เลือก KTB, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เป็น Top pick โดยให้ KTB ราคาเป้าหมายที่ 21.00 บาท อิงในปี 67 มีค่า PBV อยู่ที่ 0.68 เท่า เพราะกำไรปี 67 จะเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มที่เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมี valuation ปัจจุบันซื้อ ขายที่ระดับต่ำเพียง PBV ที่ 0.62 เท่า

นอกจากนี้ทางฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่า KTB จะเน้นการปล่อยสินเชื่อภาครัฐมากขึ้น เพราะเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและรอ งรับกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ และเป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องมีการตั้งสำรองฯ เพิ่ม และยังมี Coverage ratio ที่ยังอยู่ในระดับสูงถึง 181%

ขณะที่ KBANK ให้ราคาเป้าหมายที่ 155.00 บาท อิงปี 67 มีค่า PBV ที่ 0.65 เท่า เพราะคุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ประกอบกับมีการเติบโตของกำไรปี 67 ที่เติบโตได้ดีราว 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนประกอบกับแนวโน้มของ NPL และการตั้งสำรองฯ ที่เริ่มดีขึ้น ซึ่งเริ่มลดลงแล้วในไตรมาส 2/2567 ขณะที่ KBANK ยังมี valuation ที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันซื้อขาย PBV เพียง 0.60 เท่าถูกกว่า SCB ที่ 0.76 เท่า

Back to top button