SCCC จับมือ Sunrise เข้าซื้อกิจการ LANNA-TAE มูลค่า 5.3 พันล้าน หวังต่อยอดธุรกิจ
SCCC ร่วมกับ “ซันไรส์ อีคิวตี้” ยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ LANNA-TAE มูลค่ารวม 5.3 พันล้านบาท หวังต่อยอดธุรกิจ
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทได้มีการยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ของบริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA และของบริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE
สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 199 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 มีมติอนุมัติอนุมัติการเข้าเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อร่วม (joint offeror) กับบริษัท ซันไรส์ อีคิวตี้ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท (Sunrise) ในการร่วมกันทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อเข้าซื้อได้แก่
1.หุ้น LANNA ไม่เกิน 288,825,699 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 55.01 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด) มูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 4,765.62 ล้านบาท ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 16.50 บาท ซึ่งบริษัทถือหุ้นโดยตรงใน LANNA จำนวน 236,173,980 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 44.99 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด
2.หุ้น TAE จำนวนไม่เกิน691,138,100 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 66.11 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด) มูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 580.56 ล้านบาท ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 0.84 บาท ซึ่ง LANNA ถือหุ้นโดยตรงใน TAE จำนวน 510,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 51.00 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด และบริษัทถือหุ้นทางอ้อมใน TAE จำนวน 47,234,796 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 4.72 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด
มูลค่าทั้งสิ้นของธุรกรรมการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จะไม่เกิน 5,346.18 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทจะไม่ขายหุ้นใน LANNA หรือ TAE ที่บริษัทถืออยู่ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในครั้งนี้
อนึ่ง ปัจจุบัน Sunrise อยู่ระหว่างการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทคือ SCCC และได้ยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการของบริษัทต่อสำนักงาน ก.ล.ต.
ขณะที่ บริษัทและ Sunrise มีแผนที่จะยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการของ LANNA และแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการของ TAE ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 และมีแผนจะยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 28สิงหาคม 2567
โดยบริษัทคาดว่าธุรกรรมการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 4/67
อย่างไรก็ดี ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อ บริษัทไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายและแผนการบริหารธุรกิจของ LANNA และ TAE อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรวมถึง
1.วัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจหลัก
2.การขยายการลงทุน (เว้นแต่การขยายการลงทุนที่สอดคล้องกับแผนการลงทุนตามปกติของธุรกิจ)
3.การได้มาและ/หรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่สำคัญ (เว้นแต่สอดคล้องกับแผนการลงทุนตามปกติของธุรกิจ)
4.โครงสร้างทางการเงิน
5.นโยบายการจ่ายเงินปันผล
6.นโยบายการทำรายการระหว่างกัน
นอกจากนี้ ไม่มีแผนที่จะเข้าทำรายการระหว่างกันที่มีนัยสำคัญกับ LANNA และ TAE นอกจากรายการระหว่างกันที่เป็นรายการธุรกิจปกติหรือสนับสนุนธุรกิจปกติตามที่เปิดเผยข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี/รายงานประจำปี ปี 66 ของบริษัท
รวมทั้งยังไม่มีความประสงค์ที่จะเพิกถอนหุ้นของ LANNA และ/หรือ TAE ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ LANNA และ/หรือ กลายเป็นบริษัทย่อยของบริษัททั้ง LANNA และ TAE จะต้องนำนโยบายการกำกับดูแล นโยบายการดำเนินงาน และนโยบายทางการเงินของบริษัทมาปรับใช้ โดยบริษัทอาจเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรระดับคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารทั้งของ LANNA และ TAE