NETBAY แย้มหลังจับมือ “พาร์ทเนอร์” เปิดกว้างตลาดกลุ่ม “ค้าปลีก-องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”

NETBAY ส่งซิกหลังจับมือ “พาร์ทเนอร์” เปิดกว้างตลาดกลุ่มค้าปลีกและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมบริษัทฯ จะรักษาการเติบโตของรายได้ในปีนี้อยู่ที่ระดับ 10-15%


นางกอบกาญจนา วีระพงษ์ประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY เปิดเผยว่า บริษัทฯ ทำธุรกิจลักษณะ Software as a Service (SaaS) ซึ่งเป็นการให้บริการแพลตพอร์มและเชื่อมโยงข้อมูลในลักษณะของ B2G, B2B, และ G2G ให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กร (Enterprise) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับภาครัฐ หรือผู้ประกอบการด้วยกัน โดย Business Model ของบริษัทฯ จะเก็บรายได้จากทางลูกค้าฝั่งเอกชนเป็นหลัก ไม่ใช้งบประมาณของภาครัฐ

“สำหรับการเติบโตของ NETBAY จะเป็นรายได้ Recurring เป็นหลัก ซึ่งมากกว่า 90% และสัดส่วนการเติบโตของบริษัทในส่วนของการดูแลกลุ่มลูกค้าทางโลจิสติกส์ไม่เกินครึ่ง ส่วนที่เหลือจะเป็นลูกค้ากลุ่มอื่น อย่างไรก็ตามบริษัทฯจะรักษาการเติบโตของรายได้ในปีนี้อยู่ที่ระดับ 10-15%” นางกอบกาญจนา กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ เดินหน้าสร้างความเติบโตต่อเนื่อง โดยจากต้นปี 2567 บริษัทฯ ได้เสริมสร้างพันธมิตรได้จับมือกับ บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO, บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG, บริษัท ไซเท็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ SITEM และบริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIT ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเป็นพันธมิตรใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างอัตราการเติบโตในธุรกิจร่วมกัน

โดยหลังจาก NETBAY จับมือกับพาร์ทเนอร์แล้ว มีผลเป็นบวกต่อบริษัทฯ เนื่องจากได้กลุ่มลูกค้าในตลาดใหม่ๆ เช่น กลุ่มค้าปลีก (Retail) และกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่บริษัทฯ ยังไม่เคยเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ในก่อนหน้า อีกทั้งบริษัทฯ ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในกลุ่มพันธมิตร ในการ Collab Product ร่วมกัน เช่น การนำ Product ของบริษัทไป Add on กับ Product ของ DITTO เพราะ DITTO มีตลาดและกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว จึงสามารถเจาะหากลุ่มลูกค้าในตลาดใหม่ เป็นต้น

ส่วนแผนธุรกิจในครึ่งหลังปี 2567 บริษัทฯ เชื่อมั่นว่ายังเติบโตได้ดี โดยบริษัทฯ มีความโดดเด่น 2 เรื่อง คือ การทำแพลตฟอร์มสำหรับการให้บริการ และด้านการพัฒนาคน (Peopleware) จากความสามารถของทีมงานที่มีความถนัดเรื่องการทำแพลตฟอร์ม ดังนั้นบริษัทฯ  สามารถนำไปให้บริการในในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ จึงเกิดเป็นโอกาสหาตลาดใหม่ๆ ทางด้านกลุ่มค้าปลีก (Retail) และกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

“อีกทั้งบริษัทฯ เดินหน้าทำพัฒนาแพลตฟอร์มที่ชื่อ iBox คือ แพลตฟอร์มบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับเอกสาร (e-Document Management Platform) เพื่อมุ่งเน้น Transform เอกสารที่เป็นรูปแบบกระดาษ ให้เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้งการจัดทำ นำส่ง แลกเปลี่ยน และจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ให้พร้อมใช้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งบริษัทฯ กำลังขยายตลาดในส่วนนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เพราะเป็น iBox สามารถบริหารจัดการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถเซ็นอนุมัติได้จากทุกที่ผ่าน Mobile หรือ iPad” นางกอบกาญจนา กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button