โบรกคัด 10 หุ้นท็อปพิก! รับดอกเบี้ยขาลง-เงินบาทแข็งค่า พ่วงกำไรครึ่งปีหลังแกร่ง
โบรกคัด 10 หุ้นท็อปพิก! รับดอกเบี้ยขาลง หลัง “พาวเวล” ส่งสัญญาณหั่นดอกเบี้ยเดือน ก.ย.นี้ นำทีมเด่น BAFS, BCP, BGRIM, CK, HMPRO, IVL, KBANK, SCC, SCGP, TIDLOR พร้อมจับตากำไรครึ่งหลังปีหลัง 2567 โตแกร่ง
บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(26 ส.ค.67) ว่า จากกรณีเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานเฟด “พาวเวล” บ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี และจะเป็นการเริ่มต้นของการ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ในขณะที่การประชุมเฟด เดือน มิ.ย.2567 ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปี 2568 ส่งสัญญาณปรับลด 4 ครั้ง โดยจะปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.00%
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญที่มีมุมมองแบบ optimistic คาดว่าเฟดจะปรับลดดอก เบี้ยถึงครั้งละ 0.50% 2 ครั้งปีนี้ ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. และ 7 พ.ย.2567นี้ จากความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐและอัตราเงินเฟ้อที่ควบคุมได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเป็นบวกยิ่งขึ้นต่อตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชีย กนง. (21 ส.ค.67) มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ ร้อยละ 2.50% โดย 1 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้มองทิศทาง SET เป็นบวกจากดอกเบี้ยลด,เงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย และเงินบาทแข็งค่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะส่งผลดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียโดยเฉพาะไทยที่ underperform peers ประกอบกับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ-ไทยจะแคบลง ส่งผลให้การไหลกลับของเงินลงทุนจากต่างประเทศและเงินบาทจะกลับมาแข็งค่า
ทั้งนี้ DAOL มองหุ้นกลุ่มการเงินได้ประโยชน์มากสุดเพราะต้นทุนส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยกู้ยืม, กลุ่มโรงไฟฟ้ามูลค่าเหมาะสมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นหากอัตราดอกเบี้ยลง ในขณะที่บริษัทที่มีหนี้สูง (โดยเฉพาะหนี้ต่างประเทศ) จะได้ประโยชน์ จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง
ทั้งนี้ได้ได้คัดเลือก 10 หุ้นที่คาดว่าจะ outperform ได้แก่ BAFS, BCP, BGRIM,CK,HMPRO, IVL, KBANK, SCC, SCGP, TIDLOR โดยพิจารณาจาก 4 ปัจจัยหลักดังนี้ 1) หุ้นใน SET100 เป็นหลักที่ราคาหุ้นปรับลงมากนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน, 2) หุ้นที่อยู่ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย (กลุ่มการเงิน, โรงไฟฟ้า,บริษัทที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสูง), 3) ครึ่งปีหลังและปี 2568 มีทิศทางที่ดี และมี valuation ที่ยังน่าสนใจ และ 4) หุ้นนขนาดใหญ่ที่ได้ประโยชน์จาก foreign fund flow
สำหรับ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS แนะนำซื้อเป้า 28.00 บาท กำไรปกติครึ่งหลังปี 67 โตดีตาฤดูการท่องเที่ยว และ มีอานิสงส์เงินปันผลในไตรมาส 4/67
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แนะนำซื้อราคาเป้า 45.00 บาท กำไรปกติครึ่งหลังปี 2567 ฟื้นตัวเทียบครึ่งแรกจากปริมาณขาย ที่สูงขึ้นของ BSRC และ OKEA
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM แนะนำซื้อราคาเป้า 35.00 บาท คาดกำไรปี 2568 กลับมาฟื้นตัวเด่น อิง สมมติฐานหลักค่า Ft สะท้อนต้นทุนพลังงานและมีส่วนเพิ่มจากการคืนหนี้ EGAT นอกจากนี้จากข้อมูลสถิติราคาหุ้น BGRIM มี negative correlation กว่า -0.65 กับ US bond yield
บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK แนะนำซื้อราคาเป้า 29.00 บาท กำไรปกติครึ่งหลังปี 67 โตต่อเนื่อง หนุนโดย backlog ทำสถิติสูงสุดใหม่และส่วนแบ่งกำาไรบริษัทร่วม CKP & BEM ขยายตัวดี
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 13.00 บาท กำไรครึ่งหลังปี 2567 ฟื้นตัวเทียบครึ่งแรกปีนี้ จาก GPM ในครึ่งปีหลัง จากเข้าสู่ high season ของการท่องเที่ยวและการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ในไตรมาส 4/67
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL แนะนำซื้อราคาเป้า 21.00 บาท คาดกลับมารายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67, ปริมาณขายสูงขึ้นต่อเนื่องเทียบไตรมาสก่อหน้า
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แนะนำซื้อราคาเป้า 155.00 บาท กำไรปี 2567 ที่โตได้ดีราว 6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, คุณภาพของสินทรัพย์ดีขึ้น NPL และการตั้งสำรองฯลดลงแล้วในไตรมาส 2/67
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC แนะนำถือราคาเป้า 250.00 บาท แนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 67 จะได้แรงหนุนจากปริมาณ ขายที่สูงขึ้นจากการ COD ของโครงการ LSP Petrochemical Complex และ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจของจีนในครึ่งปีหลัง 2567
บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP แนะนำซื้อราคาเป้า 38.00 บาท กำไรครึ่งหลังปี 2567 สูงขึ้นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามปริมาณขายที่ สูงขึ้น และปรับราคาขายเฉลี่ย
บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ขึ้นได้ ช่วยชดเชยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัท PT. Fajar Surya Wisesa Tbk. (Fajar)
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR แนะนำถือราคาเป้า 23.00 บาท สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไตรมาส 2/67 อยู่ที 1.9% ต่ำที่สุดในกลุ่มได้ประโยชน์จากนโยบาบรัฐบาลที่จะเข้ามาดูแลหนี้ ครัวเรือนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ